น้ำมูกไหลข้างเดียวเป็นอะไร

3 การดู

น้ำมูกไหลข้างเดียวในเด็ก อาจเกิดจากการติดเชื้อในโพรงจมูกหรือไซนัสข้างเดียวที่อาจมีสิ่งแปลกปลอมตกค้างในจมูก ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

น้ำมูกไหลข้างเดียว: สาเหตุและการรักษา

น้ำมูกไหลข้างเดียวนั้นเกิดจากการอักเสบและการผลิตเมือกมากเกินไปในรูจมูกเพียงข้างเดียว สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการติดเชื้อในโพรงจมูกหรือไซนัสข้างเดียว อย่างไรก็ตาม ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดภาวะนี้ได้

สาเหตุของน้ำมูกไหลข้างเดียว

  • การติดเชื้อ: น้ำมูกไหลข้างเดียวมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อราในโพรงจมูกหรือไซนัส เช่น หวัด ไซนัสอักเสบ หรือโรคภูมิแพ้
  • สิ่งแปลกปลอมในจมูก: สิ่งแปลกปลอม เช่น ลูกปัด ของเล่นชิ้นเล็ก หรือแมลง อาจติดอยู่ในรูจมูกและทำให้เกิดการระคายเคืองและน้ำมูกไหล
  • เนื้องอกในโพรงจมูก: ในบางกรณี น้ำมูกไหลข้างเดียวอาจเป็นสัญญาณของเนื้องอกในโพรงจมูก
  • ความผิดปกติทางกายวิภาค: ความผิดปกติของโครงสร้างภายในจมูก เช่น ผนังกั้นจมูกคด อาจทำให้เกิดการระบายน้ำไม่ดีและนำไปสู่การไหลของน้ำมูกข้างเดียว
  • โรคภูมิแพ้: โรคภูมิแพ้บางชนิด เช่น ไรฝุ่นหรือขนสัตว์เลี้ยง อาจทำให้เกิดการอักเสบและน้ำมูกไหลข้างเดียว

อาการของน้ำมูกไหลข้างเดียว

นอกจากน้ำมูกไหลข้างเดียวแล้ว อาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่:

  • จาม
  • คัดจมูก
  • ปวดหน้าหรือปวดศีรษะ
  • ไข้
  • ไอ
  • เจ็บคอ

การวินิจฉัยน้ำมูกไหลข้างเดียว

เมื่อคุณไปพบแพทย์เกี่ยวกับน้ำมูกไหลข้างเดียว แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกาย แพทย์อาจใช้กล้องส่องตรวจภายในโพรงจมูกหรือไซนัสเพื่อมองหาสิ่งผิดปกติ เช่น การติดเชื้อหรือสิ่งแปลกปลอม ในบางกรณี อาจจำเป็นต้องมีการเอกซเรย์หรือการสแกนภาพเพื่อประเมินโพรงไซนัสเพิ่มเติม

การรักษาน้ำมูกไหลข้างเดียว

การรักษาน้ำมูกไหลข้างเดียวจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง หากสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ แพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะ ยาต้านไวรัส หรือยาลดอาการคัดจมูก ในกรณีของสิ่งแปลกปลอมในจมูก แพทย์จะต้องนำสิ่งแปลกปลอมนั้นออก

สำหรับความผิดปกติทางกายวิภาค อาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขโครงสร้างภายในจมูก หากสาเหตุเกิดจากโรคภูมิแพ้ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาแก้แพ้หรือหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

เมื่อใดควรพบแพทย์

โดยทั่วไปแล้ว น้ำมูกไหลข้างเดียวในผู้ใหญ่ไม่ใช่ภาวะที่รุนแรงและจะหายได้เองภายในไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม ควรพบแพทย์หากคุณมีอาการใดๆ ต่อไปนี้:

  • น้ำมูกไหลข้างเดียวที่ไม่หายไปภายใน 10 วัน
  • มีไข้สูงกว่า 38.3 องศาเซลเซียส
  • มีอาการปวดหน้าหรือปวดศีรษะอย่างรุนแรง
  • มีเลือดหรือหนองในน้ำมูก

หากเด็กเล็กของคุณมีน้ำมูกไหลข้างเดียว ควรพาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เนื่องจากเด็กๆ อาจมีอาการคัดจมูกได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่และอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนได้