บริจาคเลือดแล้วจะเพลียกี่วัน

บริจาคเลือดแล้วเพลีย… กี่วันถึงจะหาย?

การบริจาคเลือดเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ ช่วยต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้มากมาย แต่หลังบริจาคเลือด หลายคนอาจรู้สึกกังวลใจกับอาการอ่อนเพลียที่ตามมา บทความนี้จะพาไปสำรวจกันว่า อาการเพลียหลังบริจาคเลือด เกิดจากอะไร หายเมื่อไหร่ และมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง

สาเหตุของอาการเพลีย

เมื่อเราบริจาคเลือด ร่างกายสูญเสียเลือดและส่วนประกอบต่างๆ ไป เช่น เกล็ดเลือด เซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้น การสูญเสียเลือด แม้เพียงเล็กน้อย จึงอาจส่งผลให้ร่างกายเกิดการปรับตัว และแสดงอาการออกมา เช่น อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด

ระยะเวลาฟื้นตัว

โดยทั่วไป อาการเหล่านี้จะดีขึ้นภายใน 1-2 วัน บางรายอาจใช้เวลาฟื้นตัวนานขึ้นเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น สุขภาพร่างกาย ปริมาณเลือดที่บริจาค และการดูแลตัวเองหลังบริจาค

วิธีดูแลตัวเอง

เพื่อให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงโดยเร็ว และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ควรปฏิบัติดังนี้

• ดื่มน้ำมากๆ: ช่วยชดเชยปริมาณเลือดที่เสียไป
• ทานอาหารที่มีประโยชน์: เลือกทานอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก เช่น เนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง ผักใบเขียว ธันยาหาร ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบิน ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง นอกจากนี้ ควรทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
• พักผ่อนให้เพียงพอ: งดกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์จะไปขัดขวางการสร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้ร่างกายฟื้นตัวช้าลง
• งดสูบบุหรี่: สารพิษในบุหรี่ทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดง

ข้อควรระวัง

• หากมีอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด เป็นลม อ่อนเพลียอย่างรุนแรง หรืออาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์
• ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ทุกครั้งที่บริจาคเลือด หากเคยมีอาการข้างเคียงหลังบริจาคเลือดมาก่อน

การบริจาคเลือดเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ การเตรียมร่างกาย และดูแลตัวเองหลังบริจาคอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาแข็งแรงพร้อมสำหรับการบริจาคในครั้งต่อไป