บริจาคเลือดไม่ผ่านเพราะอะไร
การบริจาคโลหิตอาจไม่ผ่านเนื่องจากหลายปัจจัย นอกจากระดับฮีโมโกลบินต่ำ (Hb <12.5 กรัม/เดซิลิตร ในหญิง และ <13 กรัม/เดซิลิตร ในชาย) แล้ว ยังอาจเกิดจากน้ำหนักตัวน้อยเกินไป ความดันโลหิตผิดปกติ หรือมีประวัติสุขภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น โรคติดเชื้อ การรับประทานยาบางชนิด หรือการมีรอยสักใหม่ๆ จึงควรตรวจสุขภาพก่อนบริจาคเพื่อความปลอดภัย
สาเหตุที่ทำให้การบริจาคเลือดไม่ผ่าน
การบริจาคโลหิตอาจไม่ผ่านเนื่องจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่
1. ระดับฮีโมโกลบินต่ำ
- ฮีโมโกลบินเป็นโปรตีนในเม็ดเลือดแดงที่ช่วยนำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกาย
- ระดับฮีโมโกลบินต่ำ (ต่ำกว่า 12.5 กรัม/เดซิลิตรในผู้หญิง และต่ำกว่า 13 กรัม/เดซิลิตรในผู้ชาย) อาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น เหนื่อยง่าย เวียนศีรษะ และหายใจถี่
2. น้ำหนักตัวน้อยเกินไป
- น้ำหนักขั้นต่ำที่กำหนดสำหรับการบริจาคเลือดคือ 45 กิโลกรัม
- น้ำหนักตัวที่น้อยเกินไปอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำระหว่างหรือหลังการบริจาค
3. ความดันโลหิตผิดปกติ
- ความดันโลหิตสูงหรือต่ำเกินไปอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น มึนงง เวียนศีรษะ หรือหมดสติ
- ผู้บริจาคที่มีความดันโลหิตสูงหรือต่ำเกินไปอาจไม่ผ่านการบริจาคเลือดเนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
4. ประวัติสุขภาพที่ไม่เหมาะสม
- ผู้ที่มีประวัติการติดเชื้อบางชนิด เช่น ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี หรือ HIV ไม่สามารถบริจาคเลือดได้ เนื่องจากอาจแพร่เชื้อสู่อีกคน
- ผู้ที่รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาต้านไวรัสบางชนิด ก็ไม่สามารถบริจาคเลือดได้เช่นกัน
- ผู้ที่มีรอยสักใหม่ๆ ต้องรอจนกว่าแผลจะหายสนิทก่อนจึงจะสามารถบริจาคเลือดได้ เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
การตรวจสุขภาพก่อนบริจาค
เพื่อความปลอดภัย ผู้บริจาคควรได้รับการตรวจสุขภาพเบื้องต้นก่อนการบริจาคเลือด การตรวจสุขภาพนี้จะช่วยประเมินความเหมาะสมของผู้บริจาคในการบริจาคเลือด และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนทั้งในผู้บริจาคและผู้รับเลือด
#บริจาคเลือด#สุขภาพ#ไม่ผ่านเกณฑ์ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต