บริจาคเลือด ได้บำเพ็ญ กี่ชม.

บริจาคโลหิต: มากกว่าการให้ชีวิต คือการบำเพ็ญประโยชน์ที่จับต้องได้

การบริจาคโลหิตถือเป็นการทำความดีที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นการมอบชีวิตใหม่ให้กับผู้ที่ต้องการโลหิต ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยจากอุบัติเหตุ ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด หรือผู้ป่วยโรคเลือดที่จำเป็นต้องได้รับการถ่ายเลือดเป็นประจำ แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า นอกเหนือจากอานิสงส์ของการให้ชีวิตแล้ว การบริจาคโลหิตยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการรับรองชั่วโมงจิตอาสาได้อีกด้วย

บริจาคโลหิต…บำเพ็ญประโยชน์ที่ได้รับการยอมรับ

สำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไปที่ต้องการสะสมชั่วโมงจิตอาสา การบริจาคโลหิตถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับการยอมรับและสามารถนำไปใช้ในการขอรับรองได้ โดยทั่วไปแล้ว สถานศึกษาหรือหน่วยงานต่างๆ มักกำหนดจำนวนชั่วโมงจิตอาสาที่สามารถนับรวมจากการบริจาคโลหิตไว้ โดยอาจแตกต่างกันไปในแต่ละแห่ง แต่โดยทั่วไปแล้ว มักจะมีการจำกัดจำนวนชั่วโมงที่รับรองไว้ที่ไม่เกิน 12 ชั่วโมงต่อปีการศึกษา

ขั้นตอนการขอรับรองชั่วโมงจิตอาสาจากการบริจาคโลหิต

เพื่อให้การขอรับรองชั่วโมงจิตอาสาเป็นไปอย่างราบรื่น อย่าลืมดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:

1. ตรวจสอบข้อกำหนดของสถานศึกษา/หน่วยงาน: ก่อนทำการบริจาคโลหิต ควรตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขเกี่ยวกับการรับรองชั่วโมงจิตอาสาของสถานศึกษาหรือหน่วยงานที่ท่านสังกัดอยู่ เพื่อให้ทราบจำนวนชั่วโมงที่สามารถนับรวมได้ และเอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นขอรับรอง
2. บริจาคโลหิต ณ หน่วยงานที่ได้รับการรับรอง: เลือกบริจาคโลหิต ณ หน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากสภากาชาดไทย หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่ได้รับการยอมรับจากสถานศึกษา/หน่วยงานของท่าน
3. ขอหลักฐานการบริจาค: หลังจากการบริจาคโลหิตเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมขอหลักฐานการบริจาคจากหน่วยงานที่ทำการบริจาค โดยทั่วไปแล้ว หลักฐานที่ได้รับจะเป็นใบรับรองการบริจาคโลหิต ซึ่งระบุข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อผู้บริจาค วันที่บริจาค และจำนวนโลหิตที่บริจาค
4. บันทึกข้อมูลลงในแบบฟอร์ม: บันทึกข้อมูลการบริจาคโลหิตลงในแบบฟอร์มที่กำหนด (เช่น แบบ กศ.016) อย่างครบถ้วนและถูกต้อง
5. แนบเอกสารประกอบ: เตรียมเอกสารประกอบการยื่นขอรับรองชั่วโมงจิตอาสา โดยทั่วไปแล้วมักจะต้องแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาหลักฐานการบริจาคโลหิตที่ออกโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
6. ยื่นเอกสาร: ยื่นเอกสารทั้งหมดให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ (เช่น ฝ่ายกิจการนักเรียน นักศึกษา หรือหน่วยงานทรัพยากรบุคคล) ตามกำหนดเวลาที่กำหนด

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

• วางแผนการบริจาค: เนื่องจากสามารถบริจาคโลหิตได้ทุกๆ 3 เดือน การวางแผนการบริจาคโลหิตล่วงหน้าจะช่วยให้ท่านสามารถสะสมชั่วโมงจิตอาสาได้อย่างสม่ำเสมอ
• เก็บรวบรวมหลักฐาน: เก็บรักษาหลักฐานการบริจาคโลหิตไว้อย่างดี เพื่อความสะดวกในการยื่นขอรับรองชั่วโมงจิตอาสาในภายหลัง
• สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนการขอรับรองชั่วโมงจิตอาสาจากการบริจาคโลหิต สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากสถานศึกษา/หน่วยงานที่ท่านสังกัดอยู่

การบริจาคโลหิตไม่เพียงแต่เป็นการให้ชีวิต แต่ยังเป็นการบำเพ็ญประโยชน์ที่สามารถนำไปใช้ในการรับรองชั่วโมงจิตอาสาได้อีกด้วย ดังนั้น หากท่านมีสุขภาพแข็งแรงและมีคุณสมบัติครบถ้วน อย่าลังเลที่จะบริจาคโลหิต เพราะนอกจากท่านจะได้ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์แล้ว ท่านยังจะได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคมและตนเองอีกด้วย