ประกันสังคมตรวจมวลกระดูกได้ไหม

ประกันสังคม สิทธิ 30 บาท และการตรวจมวลกระดูก: สิทธิที่คุณควรรู้

ในยุคที่สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ สุขภาพกระดูกจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกคนควรให้ความใส่ใจ ภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) เป็นภัยเงียบที่มักไม่มีอาการแสดง จนกว่าจะเกิดภาวะกระดูกหัก ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต

หลายท่านอาจสงสัยว่า สิทธิประกันสังคม หรือ สิทธิ 30 บาท ที่เรามีอยู่นั้น ครอบคลุมถึงการตรวจมวลกระดูกหรือไม่? บทความนี้จะเจาะลึกในรายละเอียด เพื่อให้คุณเข้าใจสิทธิของตนเองและวางแผนดูแลสุขภาพกระดูกได้อย่างถูกต้อง

ประกันสังคมและสิทธิ 30 บาท: ตรวจมวลกระดูกได้จริงหรือ?

คำตอบคือ “ได้” แต่มีเงื่อนไขสำคัญ นั่นคือ “ข้อบ่งชี้ทางการแพทย์”

ทั้งสิทธิประกันสังคมและสิทธิ 30 บาท ครอบคลุมการตรวจมวลกระดูก โดยโรงพยาบาลต้นสังกัด (หรือสถานพยาบาลที่ลงทะเบียนไว้) จะเป็นผู้พิจารณาส่งตรวจ หากแพทย์เห็นว่ามีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่สมควร

ข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่พิจารณาในการส่งตรวจมวลกระดูก มีอะไรบ้าง?

• อายุ: ผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ชายอายุ 70 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจมวลกระดูก
• ปัจจัยเสี่ยง:
  • มีประวัติครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน
  • เคยมีกระดูกหักจากอุบัติเหตุที่ไม่รุนแรง
  • มีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อความแข็งแรงของกระดูก เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคไตเรื้อรัง โรคต่อมไทรอยด์
  • รับประทานยาบางชนิดที่ส่งผลต่อความแข็งแรงของกระดูก เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาไทรอยด์
  • มีภาวะขาดแคลเซียมและวิตามินดี
  • สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  • มีน้ำหนักตัวน้อย
• ผลการตรวจร่างกาย: แพทย์อาจพิจารณาส่งตรวจมวลกระดูก หากผลการตรวจร่างกายบ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน

สิทธิข้าราชการหรือสิทธิจ่ายตรง: ครอบคลุมหรือไม่?

เช่นเดียวกับสิทธิประกันสังคมและสิทธิ 30 บาท สิทธิข้าราชการหรือสิทธิจ่ายตรง ก็ครอบคลุมการตรวจมวลกระดูกเช่นกัน หากมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์

หากต้องการตรวจมวลกระดูกด้วยตนเอง โดยไม่มีข้อบ่งชี้: ต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?

หากคุณต้องการตรวจมวลกระดูกเพื่อตรวจสุขภาพเชิงรุก โดยที่แพทย์ไม่ได้พิจารณาว่ามีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

ค่าใช้จ่ายในการตรวจมวลกระดูกจะแตกต่างกันไปตามโรงพยาบาลและจำนวนจุดที่ตรวจ โดยทั่วไป ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทต่อการตรวจกระดูกแต่ละส่วน (เช่น สะโพก สันหลังส่วนเอว ปลายแขน)

คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อสุขภาพกระดูกที่ดี:

• รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง: เช่น นม โยเกิร์ต ปลาเล็กปลาน้อย ผักใบเขียว
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทก เช่น การเดิน การวิ่ง การเต้นแอโรบิก
• หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง: เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
• ปรึกษาแพทย์: หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพกระดูก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและการตรวจวินิจฉัยที่เหมาะสม

สรุป:

การตรวจมวลกระดูกเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน หากคุณมีสิทธิประกันสังคม สิทธิ 30 บาท หรือสิทธิข้าราชการ/จ่ายตรง คุณสามารถเข้ารับการตรวจได้หากมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ หากไม่มีข้อบ่งชี้และต้องการตรวจด้วยตนเอง อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม การดูแลสุขภาพกระดูกเชิงรุกด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณมีกระดูกที่แข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว