ประวัติส่วนตัวควรใส่อะไรบ้าง

6 การดู

ประวัติส่วนตัวควรระบุชื่อ-นามสกุล เบอร์ติดต่อ อีเมล และLinkedIn (ถ้ามี) เรียงลำดับประสบการณ์การทำงานล่าสุดก่อน เน้นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากงานแต่ละตำแหน่ง เช่น เพิ่มยอดขาย 15% หรือพัฒนาเว็บไซต์ใหม่ ควรระบุทักษะเฉพาะด้านที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร เช่น การใช้โปรแกรม Photoshop หรือภาษาโปรแกรม Python

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เขียนประวัติส่วนตัวให้ปัง! ฉบับพิชิตใจนายจ้าง

การเขียนประวัติส่วนตัว หรือเรซูเม่ (Resume) คือ ก้าวแรกที่สำคัญในการสมัครงาน เปรียบเสมือนนามบัตรที่นำเสนอตัวตนและความสามารถของคุณให้นายจ้างเห็น ประวัติส่วนตัวที่เขียนดี มีประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์งานได้อย่างมาก บทความนี้จะแนะนำองค์ประกอบสำคัญที่ควรใส่ในประวัติส่วนตัว เพื่อให้โดดเด่นและน่าสนใจ

ข้อมูลติดต่อที่ชัดเจนและครบถ้วน:

เริ่มต้นด้วยการระบุข้อมูลติดต่อที่ชัดเจนและครบถ้วน เพื่อให้นายจ้างสามารถติดต่อคุณได้ง่าย ประกอบด้วย:

  • ชื่อ-นามสกุล: ใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง ตรวจสอบความถูกต้องของตัวสะกดให้ดี
  • เบอร์โทรศัพท์: ระบุเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบอร์โทรศัพท์นั้นใช้งานได้จริง
  • อีเมล: ใช้อีเมลที่ดูเป็นมืออาชีพ หลีกเลี่ยงการใช้อีเมลที่มีชื่อเล่นหรือชื่อที่ไม่เหมาะสม
  • LinkedIn (ถ้ามี): การใส่ลิงก์ LinkedIn จะช่วยให้นายจ้างเห็นประวัติการทำงานและเครือข่ายของคุณได้อย่างละเอียดมากขึ้น เพิ่มความน่าเชื่อถือและโอกาสในการถูกพิจารณา

ประสบการณ์การทำงาน เน้นผลลัพธ์ที่วัดผลได้:

ส่วนของประสบการณ์การทำงานถือเป็นหัวใจสำคัญของประวัติส่วนตัว ควรเรียงลำดับประสบการณ์การทำงานจากล่าสุดไปหาเก่าสุด โดยระบุรายละเอียดดังนี้:

  • ชื่อบริษัท ตำแหน่ง และระยะเวลาการทำงาน: ระบุให้ชัดเจนว่าคุณทำงานที่ไหน ตำแหน่งอะไร และทำงานในช่วงเวลาใด
  • รายละเอียดหน้าที่ความรับผิดชอบ: อธิบายหน้าที่และความรับผิดชอบของคุณในแต่ละตำแหน่ง โดยใช้ภาษาที่กระชับ เข้าใจง่าย และเน้นผลงานที่สำคัญ
  • ผลลัพธ์ที่วัดผลได้: สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการแสดงให้เห็นว่าคุณสร้างผลงานอะไรให้กับบริษัทเดิม เช่น เพิ่มยอดขาย 15% ลดต้นทุนการผลิต 10% หรือพัฒนาเว็บไซต์ใหม่ที่เพิ่มจำนวนผู้เข้าชม 20% การใช้ตัวเลขและข้อมูลที่ชัดเจนจะทำให้ประวัติส่วนตัวของคุณดูน่าเชื่อถือและโดดเด่นกว่าคนอื่น

ทักษะความสามารถที่ตรงกับตำแหน่งงาน:

ระบุทักษะความสามารถที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่คุณสมัคร เช่น ทักษะการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ภาษาต่างประเทศ หรือทักษะเฉพาะด้านอื่นๆ เช่น การใช้โปรแกรม Photoshop, ภาษาโปรแกรม Python, การวิเคราะห์ข้อมูล หรือทักษะการสื่อสาร ควรเลือกทักษะที่สำคัญและตรงกับความต้องการของนายจ้าง เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณมีความสามารถที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้น

การศึกษา:

ระบุวุฒิการศึกษา ชื่อสถาบัน และปีที่สำเร็จการศึกษา เรียงลำดับจากวุฒิสูงสุดไปหาวุฒิต่ำสุด

สรุปโดยย่อ:

นอกเหนือจากส่วนประกอบหลักๆ คุณสามารถเพิ่มส่วนสรุปโดยย่อ (Summary/Objective) เพื่อเน้นย้ำทักษะและประสบการณ์ที่สำคัญ และแสดงให้เห็นว่าคุณมีความมุ่งมั่นและความกระตือรือร้นที่จะทำงานในตำแหน่งนั้นๆ

การเขียนประวัติส่วนตัวที่ดี ไม่ใช่แค่การรวบรวมข้อมูล แต่เป็นการนำเสนอตัวตนและความสามารถของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความประทับใจแรกที่ดีกับนายจ้าง และเพิ่มโอกาสในการได้งานที่ใฝ่ฝัน.