ปวดหัวด้านหน้าคืออะไร

7 การดู

ปวดหัวด้านหน้า อาจเกิดจากอาการไซนัสอักเสบ ซึ่งโพรงไซนัสอักเสบอาจส่งผลให้มีอาการปวดบริเวณหน้าผาก จมูก หรือข้างแก้ม โดยอาจมีอาการเพิ่มเติม เช่น ไข้ น้ำมูกไหล หรือมีเสมหะ หากมีอาการปวดหัวด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปวดหัวด้านหน้า: มากกว่าแค่ปวดศีรษะธรรมดา

ปวดหัวเป็นอาการที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน และมักไม่ใช่สัญญาณของโรคร้ายแรง อย่างไรก็ตาม ปวดหัวด้านหน้า หรือที่บางคนอาจรู้สึกว่าปวดบริเวณหน้าผาก ดั้งจมูก หรือแก้ม นั้นอาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ ที่แตกต่างจากปวดหัวทั่วไป ซึ่งมักเกิดจากความเครียด การนอนไม่พอ หรือการขาดน้ำ ปวดหัวด้านหน้าอาจมีสาเหตุที่ซับซ้อนกว่านั้น และจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสม

หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยของอาการปวดหัวด้านหน้าคือ ไซนัสอักเสบ (Sinusitis) ซึ่งเป็นการอักเสบของโพรงไซนัส โพรงอากาศเล็กๆ ที่อยู่ภายในกระดูกใบหน้า เมื่อโพรงไซนัสอักเสบ จะเกิดการบวมและอุดตัน ส่งผลให้เกิดความดันภายในโพรงไซนัสเพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดอาการปวด ความรู้สึกกดทับ หรือแน่นบริเวณหน้าผาก ดั้งจมูก และแก้ม อาการปวดมักจะรุนแรงขึ้นเมื่อโน้มตัวลง หรือเปลี่ยนท่าทาง นอกจากอาการปวดแล้ว ผู้ป่วยไซนัสอักเสบอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น น้ำมูกข้นสีเขียวหรือเหลือง มีไข้ เจ็บคอ ไอ และรู้สึกอ่อนเพลีย อาการเหล่านี้จะแตกต่างไปจากปวดหัวแบบตึงๆ หรือปวดตุ๊บๆ ทั่วไป

นอกจากไซนัสอักเสบแล้ว ปวดหัวด้านหน้ายังอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้อีก เช่น:

  • ไมเกรน: แม้ว่าไมเกรนจะมักเกี่ยวข้องกับอาการปวดหัวข้างเดียว แต่ก็อาจเกิดปวดหัวด้านหน้าได้เช่นกัน โดยมักมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และความไวต่อแสงและเสียง
  • ปวดหัวตึง (Tension Headache): แม้จะเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการปวดหัว แต่ปวดหัวตึงก็สามารถเกิดขึ้นบริเวณหน้าผากได้เช่นกัน ลักษณะอาการจะเป็นความรู้สึกตึงๆ หรือรัดๆ ที่ศีรษะ
  • การบาดเจ็บที่ศีรษะ: การกระแทกหรือการบาดเจ็บที่ศีรษะอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวด้านหน้าได้
  • ปัญหาเกี่ยวกับดวงตา: เช่น สายตาสั้น สายตายาว หรือความผิดปกติของกล้ามเนื้อตา
  • การติดเชื้อในช่องจมูกและลำคอ: เช่น หวัด หรือไข้หวัดใหญ่
  • ความผิดปกติของฟันและขากรรไกร: เช่น การสบฟันผิดปกติ หรือปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อขากรรไกร

หากคุณประสบกับอาการปวดหัวด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง หรือปวดหัวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจสั่งตรวจเพิ่มเติม เช่น การเอกซเรย์ หรือซีทีสแกน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดหัว และให้การรักษาที่เหมาะสม อย่าละเลยอาการปวดหัว เพราะการวินิจฉัยและการรักษาที่รวดเร็วจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต การรับประทานยาแก้ปวดแบบประจำโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด และอาจทำให้หาสาเหตุที่แท้จริงได้ยากขึ้น