ภาวะน้ำตาลต่ำต้องทำยังไง

6 การดู

หากคุณมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ ระยะเบาถึงปานกลาง ให้รับประทานอาหารที่มีน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตอย่างรวดเร็ว เช่น น้ำตาลทราย หรือขนมปังปิ้ง 1-2 แผ่น รอ 15 นาที แล้ววัดระดับน้ำตาลอีกครั้ง หากยังต่ำ ให้รับประทานเพิ่มเติมจนกว่าระดับน้ำตาลจะเกิน 70 มก./ดล.

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) อาการและการจัดการเบื้องต้น

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ คือ ภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าค่าปกติ อาจเกิดขึ้นได้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ที่ไม่เป็นโรคเบาหวาน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องรับประทานยาหรืออินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด อาการของภาวะน้ำตาลต่ำสามารถแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและความเร็วของการลดลงของน้ำตาล

หากคุณสังเกตเห็นอาการของภาวะน้ำตาลต่ำ แม้ในระดับเบาถึงปานกลาง ก็ควรจัดการอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้รุนแรงขึ้น การจัดการที่รวดเร็วและถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญต่อการรักษาสภาวะให้กลับคืนสู่ปกติอย่างรวดเร็วและปลอดภัย

การจัดการเบื้องต้น:

เมื่อพบว่ามีอาการน้ำตาลต่ำ ขอแนะนำให้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้:

  1. ประเมินอาการ: สังเกตอาการของตัวเองอย่างรอบคอบ อาการที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ ใจสั่น, เหงื่อออก, มือสั่น, หิว, ปวดหัว, อารมณ์หงุดหงิด, เหนื่อยล้า, มึนงง, ภาพเบลอ, และบางรายอาจมีอาการชักหรือหมดสติ หากพบว่ามีอาการรุนแรงหรือมีอาการที่สงสัยว่าเป็นภาวะน้ำตาลต่ำ ควรขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ทันที

  2. รับประทานคาร์โบไฮเดรตอย่างรวดเร็ว: นี่เป็นมาตรการแรกในการจัดการภาวะน้ำตาลต่ำ คาร์โบไฮเดรตอย่างรวดเร็ว เช่น น้ำตาลทราย, น้ำผลไม้ (แต่ไม่ควรมีน้ำตาลมากเกินไป), ขนมปังปิ้ง 1-2 แผ่น, ขนมหวานเล็กน้อย, หรือแยม ควรเลือกชนิดที่หาได้ง่ายและสะดวก

  3. รอ 15 นาที และวัดระดับน้ำตาลอีกครั้ง: หลังจากรับประทานคาร์โบไฮเดรตอย่างรวดเร็วแล้ว รอประมาณ 15 นาที วัดระดับน้ำตาลในเลือดอีกครั้ง หากระดับน้ำตาลยังต่ำกว่า 70 มก./ดล. ให้ทำตามขั้นตอนที่ 4

  4. รับประทานคาร์โบไฮเดรตเพิ่มเติมจนกว่าระดับน้ำตาลเกิน 70 มก./ดล.: หากระดับน้ำตาลยังต่ำกว่า 70 มก./ดล. ให้รับประทานคาร์โบไฮเดรตอย่างรวดเร็วเพิ่มเติม และวัดระดับน้ำตาลอีกครั้งทุก 15 นาที จนกว่าระดับน้ำตาลจะสูงขึ้นเกิน 70 มก./ดล.

ข้อควรระวัง:

  • หากภาวะน้ำตาลต่ำรุนแรง (เช่น มีอาการชักหรือหมดสติ) อย่าพยายามให้ผู้ป่วยรับประทานอะไรเอง ควรขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ทันที

  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อวางแผนการรับประทานอาหารและยาที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตนเอง

  • ควรตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่และป้องกันภาวะน้ำตาลต่ำซ้ำ

คำแนะนำทั่วไป:

หากคุณมีประวัติของภาวะน้ำตาลต่ำ ควรวางแผนการป้องกันที่เหมาะสม เช่น กินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเป็นประจำในระยะเวลาที่กำหนด พยายามจัดตารางเวลาการรับประทานอาหารให้เป็นประจำ เพื่อรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่

การมีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับภาวะน้ำตาลต่ำและการจัดการเบื้องต้น จะช่วยให้คุณสามารถป้องกันและจัดการภาวะนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น