น้ำตาลตกแก้ไขอย่างไร

6 การดู

หากรู้สึกตัวและมีอาการน้ำตาลตกเบาๆ เช่น เวียนหัว ใจสั่น ลองรับประทานขนมปังปิ้งทาแยมหรือดื่มน้ำผลไม้หวานๆ ทันที อาการจะดีขึ้นภายใน 15-20 นาที แต่หากอาการรุนแรงขึ้น เช่น สับสน หมดสติ หรือหายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์โดยด่วน เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

น้ำตาลตก: รู้ทัน สังเกต แก้ไขได้ทันท่วงที

“น้ำตาลในเลือดต่ำ” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “น้ำตาลตก” เป็นภาวะที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำตาลในกระแสเลือดลดต่ำกว่าปกติ ส่งผลต่อการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะสมองที่ต้องพึ่งพาน้ำตาลเป็นพลังงานหลัก

สัญญาณเตือนภัย…อย่านิ่งนอนใจ!

อาการของน้ำตาลตก มีความหลากหลายและแสดงออกแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางรายอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย ในขณะที่บางรายอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นหมดสติได้ ดังนั้น การรู้เท่าทันสัญญาณเตือนภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ

อาการเริ่มต้นที่พบบ่อย:

  • รู้สึกอ่อนเพลีย เหมือนไม่มีแรง
  • วิงเวียนศีรษะ มึนงง เหมือนจะเป็นลม
  • ใจสั่น เหงื่อออก ตัวเย็น
  • หิว กระหายน้ำอย่างรุนแรง
  • ปากชา รู้สึกชาบริเวณริมฝีปาก ปลายนิ้วมือ
  • มองเห็นภาพไม่ชัด ภาพเบลอ
  • สมาธิสั้น หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน

อาการขั้นรุนแรงที่ต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน:

  • พูดไม่ชัด พูดจาเลอะเลือน สับสน
  • ชักเกร็ง หมดสติ
  • หายใจลำบาก

แก้ไขทันท่วงที…ปลอดภัยไว้ก่อน!

1. หากมีอาการน้ำตาลตกแบบไม่รุนแรง:

  • รีบทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำผลไม้ ลูกอม น้ำหวาน หรือ กลูโคสแบบเม็ด
  • หลังจากทานอาหารหวานแล้ว ประมาณ 15-20 นาที ให้ทานอาหารว่างหรืออาหารมื้อเล็กๆ ที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ขนมปังโฮลวีท แครกเกอร์ ผลไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดลดลงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

2. หากมีอาการขั้นรุนแรง เช่น หมดสติ ชักเกร็ง หายใจลำบาก:

  • ห้าม ป้อนอาหารหรือเครื่องดื่มทางปากอย่างเด็ดขาด เพราะอาจทำให้สำลักได้
  • รีบโทรแจ้ง 1669 หรือ หน่วยแพทย์ฉุกเฉินทันที
  • ในกรณีที่ผู้ป่วยฉีดอินซูลิน ญาติหรือผู้ใกล้ชิดอาจฉีดกลูคากอน (Glucagon) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนการใช้ยา

ป้องกันไว้ก่อน…ดีที่สุด!

  • รับประทานอาหารให้ตรงเวลา ครบ 5 หมู่ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง
  • ผู้ป่วยเบาหวานควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ
  • พกอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลติดตัวไว้เสมอ เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่หักโหมจนเกินไป
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติ

การดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม รวมถึงการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ จะช่วยให้สามารถป้องกัน และรับมือกับน้ำตาลตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ