ยาแก้แพ้อาหารทะเลมีอะไรบ้าง

เมื่ออาหารทะเลกลายเป็นศัตรู: ยาและการรับมือกับอาการแพ้

อาหารทะเลแสนอร่อยอาจกลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรงได้หากคุณมีอาการแพ้ อาการแพ้อาหารทะเลนั้นเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อโปรตีนในอาหารทะเลชนิดต่างๆ เช่น กุ้ง ปู ปลาหมึก หอย โดยแสดงอาการตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้น การรู้จักยาและวิธีการรับมือจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

อาการแพ้อาหารทะเลแสดงออกได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ผื่นคัน บวมที่ริมฝีปาก ลิ้น คอ คันจมูก น้ำมูกไหล หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย จนถึงอาการรุนแรงอย่างช็อกจากการแพ้ (anaphylaxis) ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน

แล้วเราจะรับมือกับอาการแพ้ได้อย่างไร? การรักษาอาการแพ้อาหารทะเลขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ สำหรับอาการไม่รุนแรง เช่น ผื่นคันเล็กน้อย อาจใช้ยาแก้แพ้ชนิดรับประทานที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา แต่ ควรระมัดระวัง เพราะยาแต่ละชนิดมีส่วนประกอบและความแรงแตกต่างกัน การปรึกษาเภสัชกรก่อนรับประทานยาจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ยาแก้แพ้ที่อาจใช้ได้ในเบื้องต้น (เฉพาะในกรณีอาการไม่รุนแรงและควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อน) อาจรวมถึงยาต้านฮิสตามีน เช่น Cetirizine (เช่น Zyrtec) , Loratadine (เช่น Claritin) , Fexofenadine (เช่น Allegra) ยาเหล่านี้ช่วยลดอาการคัน บวม และน้ำมูกไหล แต่ไม่สามารถรักษาอาการแพ้รุนแรงได้

ในกรณีที่อาการรุนแรง เช่น หายใจลำบาก เสียงหายใจมีเสียงหวีด หน้ามืด เป็นลม หรือเกิดอาการช็อก จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนด้วยยาอีพิเนฟริน (Epinephrine) อีพิเนฟรินเป็นยาฉีดที่ช่วยกระตุ้นระบบหายใจและหัวใจ ผู้ป่วยที่เคยมีประวัติแพ้อาหารทะเลรุนแรงควรพกยาฉีดอีพิเนฟรินติดตัวเสมอ และเรียนรู้วิธีการฉีดอย่างถูกต้องจากแพทย์ หลังจากฉีดยาอีพิเนฟรินแล้ว ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงอาหารทะเล หากคุณรู้ว่าตัวเองแพ้อาหารทะเล ควรอ่านฉลากอาหารอย่างละเอียด ระวังอาหารที่อาจปนเปื้อนโปรตีนจากอาหารทะเล และแจ้งให้ร้านอาหารหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทราบถึงอาการแพ้ของคุณ

สุดท้ายนี้ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้เป็นสิ่งจำเป็น แพทย์จะช่วยประเมินความรุนแรงของอาการแพ้ แนะนำวิธีการรับมือ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม อย่ามองข้ามอาการแพ้ เพราะความปลอดภัยของคุณคือสิ่งสำคัญที่สุด