รู้สึกคลื่นไส้เกิดจากอะไร

2 การดู

อาการคลื่นไส้ อาจเกิดจากภาวะเครียด วิตกกังวล การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว หรือการรับประทานอาหารบางชนิด ควรสังเกตอาการ และปรึกษาแพทย์หากอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

คลื่นไส้…สัญญาณเตือนจากร่างกายที่คุณควรใส่ใจ

อาการคลื่นไส้เป็นอาการที่คุ้นเคยสำหรับหลายๆ คน ความรู้สึกไม่สบายท้อง อยากอาเจียน บางครั้งอาจร่วมกับเหงื่อออก เวียนหัว หรือปวดศีรษะ อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ชั่วครู่ชั่วคราว หรือเป็นเรื้อรัง จนส่งผลต่อคุณภาพชีวิต การทำความเข้าใจสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถรับมือและแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง

สาเหตุของอาการคลื่นไส้มีความหลากหลาย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงการตั้งครรภ์หรือการเมาคัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการนี้ได้ ได้แก่:

1. ปัจจัยทางกายภาพ:

  • ระบบทางเดินอาหาร: การรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด อาหารเป็นพิษ การแพ้อาหาร โรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ แผลในกระเพาะอาหาร การอุดตันในทางเดินอาหาร ล้วนเป็นสาเหตุที่พบบ่อย อาการคลื่นไส้อาจมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น ท้องเสีย ท้องผูก ปวดท้อง และอาเจียน
  • การเคลื่อนไหว: การเดินทางด้วยยานพาหนะ เช่น รถยนต์ เรือ หรือเครื่องบิน อาจทำให้เกิดอาการเมาคัน เนื่องจากความไม่สมดุลของสัญญาณที่ส่งไปยังสมอง การออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็วก็สามารถกระตุ้นให้เกิดคลื่นไส้ได้เช่นกัน
  • ภาวะขาดน้ำ: การขาดน้ำอย่างรุนแรงจะทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้
  • การใช้ยาบางชนิด: ยาบางชนิดมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ควรตรวจสอบข้อมูลยาอย่างละเอียด หรือปรึกษาเภสัชกร

2. ปัจจัยทางจิตใจและอารมณ์:

  • ความเครียดและความวิตกกังวล: ความเครียด ความกังวล และความเครียดสะสม สามารถส่งผลต่อระบบประสาท และทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้ เช่นเดียวกับภาวะซึมเศร้า
  • การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน: ในผู้หญิง การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน เช่น ระหว่างมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือในช่วงวัยหมดประจำเดือน อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้

3. ปัจจัยอื่นๆ:

  • โรคเกี่ยวกับระบบประสาท: โรคเกี่ยวกับสมอง เช่น ไมเกรน หรือโรคเกี่ยวกับระบบประสาทอื่นๆ
  • โรคเกี่ยวกับระบบหูและการทรงตัว: โรคเกี่ยวกับหูชั้นใน อาจทำให้เกิดอาการเวียนหัวและคลื่นไส้
  • การติดเชื้อ: การติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือการติดเชื้อแบคทีเรีย อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้

เมื่อไรควรพบแพทย์?

หากอาการคลื่นไส้รุนแรง เป็นอยู่นาน หรือมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น อาเจียนอย่างรุนแรง มีไข้สูง ปวดท้องอย่างรุนแรง หรือมีเลือดปนในอุจจาระ ควรไปพบแพทย์โดยทันที เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม อย่าปล่อยปละละเลยอาการ เพราะอาการคลื่นไส้อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงได้

การดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การจัดการความเครียด และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยง และบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น การปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ได้รับการดูแลและรักษาอย่างทันท่วงที