สาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้ประจำเดือนเคลื่อน

2 การดู

การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนอย่างกะทันหันจากการใช้ยาคุมกำเนิด, การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในกิจวัตรประจำวัน เช่น การเดินทางข้ามโซนเวลา หรือความเครียดสะสมอย่างรุนแรง สามารถทำให้ประจำเดือนมาไม่ตรง นอกจากนี้ ภาวะต่างๆ เช่น โรคต่อมไทรอยด์ หรือความผิดปกติของรังไข่ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ตรงได้เช่นกัน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ประจำเดือนเคลื่อน: มากกว่าแค่เรื่องฮอร์โมน

การที่ประจำเดือนมาไม่ตรงตามรอบ หรือที่เรียกว่า “ประจำเดือนเคลื่อน” เป็นเรื่องที่ผู้หญิงหลายคนต้องเผชิญ ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลใจไม่น้อย สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงนี้มีความหลากหลาย นอกเหนือจากปัจจัยที่ทราบกันดี เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจากการใช้ยาคุมกำเนิด การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันอย่างฉับพลัน หรือความเครียดสะสมแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อรอบเดือนของคุณได้

ฮอร์โมนที่ไม่สมดุล: ตัวการสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

แน่นอนว่าฮอร์โมนเป็นปัจจัยหลักที่ควบคุมรอบเดือนของเรา การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน สามารถทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้นหรือหลุดลอกเร็วกว่ากำหนด ส่งผลให้ประจำเดือนมาเร็วหรือช้ากว่าปกติ นอกจากการใช้ยาคุมกำเนิดแล้ว ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงได้ เช่น

  • การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักอย่างรวดเร็ว: การลดหรือเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็วสามารถส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนในร่างกายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันในร่างกายมีบทบาทสำคัญในการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน
  • การออกกำลังกายอย่างหนัก: การออกกำลังกายที่มากเกินไป อาจทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะเครียด ซึ่งส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนและรอบเดือน
  • ภาวะวัยรุ่น: ในช่วงวัยรุ่น ระบบฮอร์โมนยังไม่คงที่ ทำให้รอบเดือนไม่สม่ำเสมอได้
  • ภาวะก่อนหมดประจำเดือน (Perimenopause): เป็นช่วงเวลาที่ฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนอย่างเต็มตัว

สุขภาพกายและใจ: ปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม

นอกจากปัจจัยด้านฮอร์โมนแล้ว สุขภาพกายและใจก็มีผลต่อรอบเดือนเช่นกัน

  • โรคเรื้อรัง: โรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคซีลิแอก หรือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune diseases) สามารถส่งผลกระทบต่อรอบเดือนได้
  • ความผิดปกติของมดลูก: เนื้องอกในมดลูก (Fibroids) หรือติ่งเนื้อในโพรงมดลูก (Polyps) อาจทำให้ประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือมาไม่ตรงรอบได้
  • การติดเชื้อ: การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน (Pelvic Inflammatory Disease – PID) อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์ และทำให้ประจำเดือนผิดปกติ
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนหลายชนิดในร่างกาย รวมถึงฮอร์โมนที่ควบคุมรอบเดือน
  • ภาวะทางจิตใจ: ความวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือภาวะทางจิตใจอื่นๆ สามารถส่งผลต่อการทำงานของสมองส่วนที่ควบคุมรอบเดือนได้

เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์?

แม้ว่าประจำเดือนเคลื่อนที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวอาจจะไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่หากพบอาการดังต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม

  • ประจำเดือนมาไม่ปกติอย่างต่อเนื่อง
  • ประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือนานกว่าปกติ
  • มีอาการปวดท้องรุนแรงระหว่างมีประจำเดือน
  • มีเลือดออกระหว่างรอบเดือน
  • สงสัยว่าอาจตั้งครรภ์

การเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนเคลื่อน จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพของตัวเองได้อย่างเหมาะสม หากมีข้อสงสัยหรือกังวลใจ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและการวินิจฉัยที่ถูกต้อง