อยู่ดีๆแขนบวมเกิดจากอะไร

2 การดู

อาการแขนบวมอาจเกิดจากการไหลเวียนโลหิตไม่สะดวก, การคั่งของเหลวจากอาหารเค็มหรือการนั่งนานๆ นอกจากนี้ ยาบางชนิด เช่น ยาคุม, ยาแก้ซึมเศร้า หรือสเตียรอยด์ ก็อาจเป็นสาเหตุได้ หากบวมเรื้อรังหรือมีอาการอื่นร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

แขนบวมปริศนา: สาเหตุที่ไม่ควรมองข้าม และเมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์

อาการแขนบวมแบบไม่ทันตั้งตัว อาจสร้างความกังวลใจให้กับใครหลายๆ คน เพราะมันอาจไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ได้ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจสาเหตุต่างๆ ที่อาจทำให้แขนบวมอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย รวมถึงสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณควรปรึกษาแพทย์โดยด่วน

แขนบวม… ทำไมถึงเกิดขึ้น?

ร่างกายของเรามีระบบการไหลเวียนโลหิตและระบบน้ำเหลืองที่ซับซ้อน ทำหน้าที่นำส่งสารอาหารและของเสีย หากระบบใดระบบหนึ่งเกิดความผิดปกติ ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการบวมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ โดยสาเหตุที่ทำให้แขนบวมแบบไม่มีที่มาที่ไปนั้น มีได้หลากหลาย ดังนี้

  • ระบบไหลเวียนโลหิตติดขัด: เส้นเลือดดำที่ทำหน้าที่นำเลือดกลับสู่หัวใจอาจถูกกดทับหรืออุดตัน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลให้เกิดอาการบวมที่แขนได้ สาเหตุของการอุดตันอาจมาจากลิ่มเลือด, การบาดเจ็บ หรือแม้แต่การนั่งไขว่ห้างนานๆ
  • ระบบน้ำเหลืองมีปัญหา: ระบบน้ำเหลืองมีบทบาทสำคัญในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย หากระบบนี้ทำงานผิดปกติ น้ำเหลืองอาจสะสมอยู่ตามแขน ทำให้เกิดอาการบวมได้ ภาวะนี้อาจเกิดจากการผ่าตัด, การติดเชื้อ, หรือความผิดปกติทางพันธุกรรม
  • ผลข้างเคียงจากยา: ยาบางชนิดอาจทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น ทำให้เกิดอาการบวมตามแขน ขา หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ยาที่อาจเป็นสาเหตุ ได้แก่ ยาคุมกำเนิด, ยาแก้ซึมเศร้า, สเตียรอยด์, ยาแก้ปวด NSAIDs และยารักษาความดันโลหิตบางชนิด
  • การติดเชื้อ: การติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสที่ผิวหนังหรือเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง อาจทำให้เกิดอาการบวม แดง ร้อน และเจ็บปวดบริเวณแขน
  • การแพ้: อาการแพ้ต่อสารต่างๆ เช่น สารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด, เครื่องสำอาง, หรือแม้แต่แมลงกัดต่อย ก็อาจทำให้เกิดอาการบวมที่แขนได้
  • ภาวะไตหรือหัวใจทำงานผิดปกติ: โรคไตและโรคหัวใจ อาจส่งผลต่อความสามารถในการกำจัดของเหลวออกจากร่างกาย ทำให้เกิดอาการบวมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
  • การได้รับบาดเจ็บ: การบาดเจ็บ เช่น ข้อเคล็ด, กล้ามเนื้อฉีกขาด หรือกระดูกหัก อาจทำให้เกิดอาการบวมบริเวณแขนได้

เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์?

อาการแขนบวมบางครั้งอาจหายได้เอง แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

  • แขนบวมอย่างรวดเร็ว: หากแขนบวมขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือวัน
  • มีอาการปวดรุนแรง: หากมีอาการปวดร้าว หรือปวดอย่างมากบริเวณแขนที่บวม
  • มีอาการชาหรืออ่อนแรง: หากรู้สึกชา หรือไม่สามารถขยับแขนได้ตามปกติ
  • ผิวหนังบริเวณที่บวมแดง ร้อน และเจ็บ: อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
  • มีไข้: อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
  • มีอาการหายใจลำบาก เจ็บหน้าอก หรือเวียนศีรษะ: อาจเป็นสัญญาณของภาวะหัวใจล้มเหลว หรือลิ่มเลือดอุดตันในปอด

ข้อควรจำ: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ได้ หากคุณมีอาการแขนบวมผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น