อาการของนิ่วในกระเพาะปัสสาวะเป็นอย่างไร

สัญญาณเตือนภัยจากกระเพาะปัสสาวะ: รู้ทันนิ่วก่อนสายเกินแก้

นิ่วในกระเพาะปัสสาวะเกิดจากการตกผลึกของสารต่างๆ ในปัสสาวะ ก้อนนิ่วเหล่านี้อาจมีขนาดเล็กเท่าเม็ดทรายหรือใหญ่เท่าลูกกอล์ฟ และมักไม่แสดงอาการใดๆ ในระยะเริ่มต้น ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่รู้ตัวว่ากำลังเผชิญกับภัยเเฝงอยู่ในร่างกาย แต่เมื่อก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่ขึ้น หรือเคลื่อนที่ไปขวางทางเดินปัสสาวะ ก็จะเริ่มส่งสัญญาณเตือนภัยออกมาหลากหลายรูปแบบ ซึ่งหากละเลย อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้

อาการที่พบบ่อยของนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับขนาด ตำแหน่ง และความรุนแรงของนิ่ว แต่โดยทั่วไปแล้ว สัญญาณเตือนภัยที่ควรสังเกตมีดังนี้:

• ปวดท้องน้อย: อาการปวดอาจเป็นแบบปวดหน่วงๆ หรือปวดบิดอย่างรุนแรงเฉียบพลัน โดยเฉพาะบริเวณเหนือหัวหน่าว และอาจร้าวไปยังบริเวณหลังส่วนล่าง ขาหนีบ หรืออวัยวะเพศได้ ความรุนแรงของอาการปวดมักเปลี่ยนแปลงไปตามท่าทางของร่างกาย และอาจรุนแรงขึ้นขณะปัสสาวะ ไอ หรือจาม
• ปัสสาวะผิดปกติ: ผู้ป่วยอาจมีอาการปัสสาวะขัดๆ ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะในเวลากลางคืน (Nocturia) รู้สึกปวดแสบร้อนขณะปัสสาวะ หรือปัสสาวะไม่สุด บางรายอาจมีปัสสาวะกระปริบกระปรอย หรือหยุดชะงักกลางคัน
• ปัสสาวะมีเลือดปน: สีของปัสสาวะอาจเปลี่ยนเป็นสีชมพู แดง หรือสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามีเลือดปนเปื้อนในปัสสาวะ เกิดจากการระคายเคืองของผนังกระเพาะปัสสาวะจากก้อนนิ่ว
• มีไข้: หากมีการติดเชื้อร่วมด้วย ผู้ป่วยอาจมีไข้ หนาวสั่น และรู้สึกไม่สบายตัวทั่วไป ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง และต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน

แม้ว่าอาการเหล่านี้ อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ที่ไม่ใช่นิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้เช่นกัน แต่หากคุณมีอาการดังกล่าวข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการปวดท้องน้อยอย่างรุนแรงร่วมกับปัสสาวะมีเลือดปน ควรปรึกษาแพทย์โดยทันที เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และรับการรักษาที่เหมาะสม การตรวจวินิจฉัยอาจรวมถึงการตรวจปัสสาวะ การตรวจเลือด การอัลตราซาวด์ การเอกซเรย์ หรือการส่องกล้องทางเดินปัสสาวะ เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและประเมินขนาด ตำแหน่ง และจำนวนของนิ่ว

อย่าปล่อยให้สัญญาณเตือนภัยจากร่างกายของคุณถูกมองข้าม การดูแลสุขภาพและการตรวจสุขภาพเป็นประจำ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและรักษาโรคต่างๆ รวมถึงนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ก่อนที่จะสายเกินแก้