อาการของแผลผ่าตัดปริมีอะไรบ้าง

4 การดู

แผลผ่าตัดมีอาการผิดปกติ เช่น บริเวณแผลบวมแดงมากกว่าปกติ มีน้ำเหลืองหรือหนองไหลซึมออกมาอย่างต่อเนื่อง รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง หรือมีไข้สูง ควรติดต่อแพทย์ทันที อย่าปล่อยไว้จนอาการแย่ลง เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สัญญาณเตือนภัย! อาการผิดปกติหลังผ่าตัด: แผลกำลังส่งสัญญาณอะไร?

การผ่าตัดเป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ช่วยรักษาอาการป่วยและปรับปรุงคุณภาพชีวิต แต่หลังจากการผ่าตัด ร่างกายของเรายังต้องเผชิญกับกระบวนการเยียวยาที่ซับซ้อน และแน่นอนว่าอาจมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นได้ การสังเกตอาการของแผลผ่าตัดอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าแผลหายเป็นปกติและไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ เกิดขึ้น

บทความนี้จะเจาะลึกถึงอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับแผลผ่าตัด ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนให้คุณต้องรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

อาการที่ต้องระวัง: แผลผ่าตัดกำลังบอกอะไรเรา?

อาการบางอย่างที่เกิดขึ้นบริเวณแผลผ่าตัด อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ การอักเสบ หรือปัญหาในการสมานแผล อาการที่ควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดมีดังนี้:

  • บวมแดงผิดปกติ: บริเวณแผลผ่าตัดมักจะมีอาการบวมและแดงเล็กน้อยในช่วงแรกๆ หลังการผ่าตัด แต่หากอาการบวมแดงนั้นมีมากขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือมีลักษณะเป็นวงกว้างกว่าปกติ ถือเป็นสัญญาณที่ต้องเฝ้าระวัง
  • น้ำเหลืองหรือหนองไหลซึม: การมีน้ำเหลืองใสๆ ซึมออกมาจากแผลในช่วงแรกๆ อาจเป็นเรื่องปกติ แต่หากน้ำเหลืองมีปริมาณมากผิดปกติ มีสีขุ่น หรือมีกลิ่นเหม็น หรือมีหนองไหลออกมา นั่นแสดงว่าอาจมีการติดเชื้อเกิดขึ้น
  • เจ็บปวดรุนแรง: อาการเจ็บปวดหลังผ่าตัดเป็นเรื่องปกติ แต่ความเจ็บปวดควรลดลงเมื่อเวลาผ่านไป หากคุณรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้จะทานยาแก้ปวดแล้วก็ตาม ควรรีบปรึกษาแพทย์
  • ไข้สูง: การมีไข้สูง (มากกว่า 38 องศาเซลเซียส) เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการติดเชื้อในร่างกาย ซึ่งอาจรวมถึงการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด
  • ผิวหนังบริเวณแผลเปลี่ยนสี: หากผิวหนังบริเวณแผลผ่าตัดมีสีคล้ำขึ้น มีสีม่วง หรือมีลักษณะเป็นผื่นแดง อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนโลหิต หรือการติดเชื้อ
  • แผลแยก: ในบางกรณี แผลผ่าตัดอาจแยกออกจากกัน ซึ่งอาจเกิดจากแรงกด หรือการเคลื่อนไหวที่ไม่เหมาะสม การที่แผลแยกออกจากกันทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
  • ความรู้สึกชา หรือรู้สึกซ่า: การที่รู้สึกชา หรือรู้สึกซ่าบริเวณแผลผ่าตัด อาจเป็นผลมาจากการที่เส้นประสาทถูกกระทบกระเทือนระหว่างการผ่าตัด แต่หากอาการดังกล่าวแย่ลง หรือเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ควรรีบปรึกษาแพทย์

ทำไมต้องรีบปรึกษาแพทย์?

การปล่อยปละละเลยอาการผิดปกติของแผลผ่าตัด อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ เช่น:

  • การติดเชื้อรุนแรง: การติดเชื้อที่ไม่ได้รับการรักษา อาจลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
  • แผลหายช้า: การติดเชื้อ หรือการอักเสบ อาจทำให้แผลหายช้าลง หรืออาจทำให้แผลไม่สมานกัน
  • เนื้อตาย: การขาดเลือดไปเลี้ยงบริเวณแผล อาจทำให้เนื้อเยื่อตาย และต้องทำการผ่าตัดแก้ไข
  • แผลเป็นนูน (Keloid): การอักเสบเรื้อรัง อาจกระตุ้นให้เกิดแผลเป็นนูนที่บริเวณแผลผ่าตัด

สิ่งที่ควรทำเมื่อพบอาการผิดปกติ:

หากคุณพบอาการผิดปกติใดๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบติดต่อแพทย์ หรือโรงพยาบาลที่ทำการผ่าตัดทันที อย่าพยายามรักษาด้วยตัวเอง หรือปล่อยทิ้งไว้จนอาการแย่ลง การได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้แผลผ่าตัดหายเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งในเรื่องของการดูแลแผล การทานยา และการพักผ่อน
  • ทำความสะอาดแผลตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลโดยไม่จำเป็น
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

สรุป:

การดูแลแผลผ่าตัดหลังการผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญ การสังเกตอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด และรีบปรึกษาแพทย์เมื่อพบความผิดปกติ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อน และทำให้แผลผ่าตัดหายเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว การใส่ใจในสุขภาพร่างกาย และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้คุณกลับมามีสุขภาพแข็งแรงได้อีกครั้ง