แผลผ่าตัดปริ ทําไง

2 การดู

คำแนะนำเพิ่มเติม (48 คำ):

หากแผลผ่าตัดปริและมีเลือดออก ให้ใช้ผ้าสะอาดกดแผลไว้แน่นๆ ยกส่วนนั้นให้สูงกว่าระดับหัวใจ หากเลือดยังไหลไม่หยุด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที อย่าพยายามทำความสะอาดแผลเองลึกๆ และหลีกเลี่ยงการใช้ยาใดๆ โดยไม่ปรึกษาแพทย์ การดูแลอย่างถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและแผลหายช้า

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

แผลผ่าตัดปริ: สัญญาณอันตรายและการดูแลที่ถูกต้อง

แผลผ่าตัด ถือเป็นบาดแผลชนิดหนึ่งที่เกิดจากการรักษาทางการแพทย์ แม้แพทย์จะเย็บปิดแผลอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่แผลอาจปริได้ ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น การไอ จาม หรือเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรุนแรงในช่วงหลังผ่าตัด ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ ภาวะทุพโภชนาการที่ทำให้แผลหายช้า รวมถึงโรคประจำตัวบางอย่างเช่น เบาหวาน หรือการใช้ยาบางชนิด การรู้เท่าทันสัญญาณอันตรายและวิธีการดูแลที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

สัญญาณที่บ่งบอกว่าแผลผ่าตัดอาจปริ ได้แก่

  • เห็นขอบแผลแยกออกจากกัน: อาจเห็นเป็นช่องว่างระหว่างผิวหนังที่เย็บติดกัน หรือเห็นเนื้อเยื่อข้างใต้
  • มีเลือดหรือของเหลวซึมออกมาจากแผล: อาจมีเลือดออกเล็กน้อย หรือมีของเหลวใสๆ หรือขุ่นๆ ซึมออกมา
  • ปวดแผลมากขึ้น: ความเจ็บปวดอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่าปกติ
  • แผลบวมแดง ร้อน: บริเวณรอบๆ แผลอาจมีอาการบวม แดง และร้อน ซึ่งเป็นสัญญาณของการอักเสบหรือติดเชื้อ
  • มีไข้: หากมีไข้ร่วมด้วย อาจบ่งชี้ว่ามีการติดเชื้อ

หากพบว่าแผลผ่าตัดปริ สิ่งแรกที่ควรทำคือ

  1. ห้ามตกใจ: ควบคุมสติและตั้งสติให้ดี
  2. กดแผลด้วยผ้าสะอาด: ใช้ผ้าสะอาดหรือผ้าก๊อซกดบริเวณที่แผลปริเบาๆ แต่แน่นพอที่จะห้ามเลือด ควรยกส่วนนั้นให้สูงกว่าระดับหัวใจเพื่อลดการไหลเวียนของเลือดบริเวณแผล
  3. รีบติดต่อแพทย์ทันที: ไม่ควรพยายามทำความสะอาดแผลเอง หรือใช้ยาใดๆ โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
  4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผล: อย่าจับหรือแกะแผล เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  5. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด: แพทย์อาจแนะนำให้ทำแผลใหม่ รับประทานยาปฏิชีวนะ หรือเข้ารับการผ่าตัดซ้ำ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผล

การดูแลแผลผ่าตัดหลังจากกลับบ้านเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ควรรักษาความสะอาดบริเวณแผล เปลี่ยนผ้าปิดแผลตามคำแนะนำของแพทย์ รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้แผลปริได้ เช่น การยกของหนัก การออกกำลังกายที่หักโหม หรือการไอ จาม อย่างรุนแรง. การดูแลอย่างถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ลดโอกาสที่แผลจะปริได้ในที่สุด.