อาการของไวรัสลงตามีอะไรบ้าง

ล่องลึกอาการตาติดเชื้อไวรัส: มากกว่าแค่ตาแดง

การติดเชื้อไวรัสที่ดวงตาเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย แม้จะไม่ได้ร้ายแรงเสมอไป แต่การรู้จักอาการต่างๆ จะช่วยให้เราสามารถรับมือและรักษาได้อย่างถูกต้อง และที่สำคัญคือป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไปยังผู้อื่นได้ บทความนี้จะเจาะลึกอาการต่างๆ ของการติดเชื้อไวรัสที่ตา ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามชนิดของไวรัสและความรุนแรงของการติดเชื้อ อย่าสับสนกับการแพ้หรือการระคายเคืองอื่นๆ เราจะพิจารณาอาการเฉพาะเจาะจงที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อไวรัสโดยตรง

อาการที่พบบ่อย:

• ตาแดง (Conjunctivitis): นี่เป็นอาการที่เด่นชัดที่สุด แต่ตาแดงไม่ได้หมายความว่าเป็นการติดเชื้อไวรัสเสมอไป อย่างไรก็ตาม หากตาแดงมาพร้อมกับอาการอื่นๆ ที่กล่าวถึงต่อไป โอกาสที่จะเป็นการติดเชื้อไวรัสก็สูงขึ้น
• ระคายเคืองและแสบตา: ความรู้สึกแสบร้อน คันตา หรือรู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในตา เป็นอาการทั่วไปที่เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตา
• ปวดเบ้าตา: อาการปวดอาจจะปวดตุบๆ หรือปวดแบบตึงๆ ความรุนแรงของอาการปวดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
• มีขี้ตา: ลักษณะของขี้ตาสำคัญมากในการวินิจฉัย ขี้ตาที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอาจมีสีเหลืองหรือเขียว เหนียวหนืด และอาจมีลักษณะเป็นก้อน แตกต่างจากขี้ตาใสๆ ที่พบในภาวะตาแห้งหรือแพ้ฝุ่นละออง
• บวมที่เปลือกตา: เปลือกตาอาจบวมแดง โดยเฉพาะบริเวณขอบตา
• ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใบหูบวม: อาการนี้เกิดขึ้นได้น้อยกว่าอาการอื่นๆ แต่หากพบร่วมกับอาการอื่นๆ ก็ชี้ให้เห็นถึงการติดเชื้อไวรัสได้
• ไวแสง (Photophobia): ดวงตาไวต่อแสงมากขึ้น อาจรู้สึกปวดแสบตาเมื่อโดนแสงแดดหรือแสงสว่างจ้า
• มีน้ำตาไหล: อาจมีน้ำตาไหลมากผิดปกติ

อาการที่อาจพบได้น้อยกว่า (แต่สำคัญ):

• มองภาพไม่ชัด: ในบางกรณี การติดเชื้อไวรัสอาจส่งผลต่อการมองเห็นชั่วคราว
• ไข้: การติดเชื้อไวรัสที่รุนแรงอาจทำให้มีไข้ร่วมด้วย

สำคัญ: อาการเหล่านี้อาจปรากฏเพียงอย่างเดียวหรือหลายอย่างรวมกัน ระยะเวลาของอาการก็แตกต่างกันไป โดยทั่วไปอาการจะดีขึ้นเองภายใน 7-10 วัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้น หรือรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการมองไม่ชัด ปวดตาอย่างรุนแรง หรือมีไข้สูง การวินิจฉัยที่ถูกต้องจากแพทย์จะช่วยให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

หมายเหตุ: บทความนี้มีไว้เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพดวงตาเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง อย่าพยายามรักษาเอง เพราะอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้