อาการตาพร่าชั่วคราวเกิดจากอะไรได้บ้าง

มองไม่ชัด! ไขปริศนา “ตาพร่ามัวชั่วคราว” สาเหตุและวิธีรับมือ

อาการตาพร่ามัวชั่วคราว เป็นประสบการณ์ที่หลายคนเคยพบเจอ ความรู้สึกมองเห็นภาพเบลอ ไม่ชัดเจน แม้เพียงชั่วขณะ ก็อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ได้ ไม่ควรละเลยอาการนี้ แม้ดูเหมือนไม่ร้ายแรง เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางชนิด บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้เกิดอาการตาพร่ามัวชั่วคราว พร้อมวิธีรับมือเบื้องต้นและเมื่อใดควรไปพบแพทย์

สาเหตุที่น่าสนใจ นอกเหนือจากที่รู้จักกันดี:

นอกเหนือจากสาเหตุทั่วไปที่เรารู้จักกันดี เช่น การขาดน้ำ ความเครียด การนอนน้อย หรือภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำชั่วคราว อาการตาพร่ามัวชั่วคราว ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้:

• การเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิตอย่างรวดเร็ว: ทั้งความดันโลหิตสูงขึ้นหรือต่ำลงอย่างฉับพลัน อาจส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงดวงตา ทำให้เกิดอาการตาพร่ามัวชั่วคราวได้
• การแพ้ยาบางชนิด: ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการตาพร่ามัว โดยเฉพาะยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ควรตรวจสอบข้อมูลยาที่ท่านรับประทานอยู่
• การใช้สายตาหนักเกินไป: การจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือทำงานที่ต้องใช้สายตาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้า เกิดอาการตาพร่ามัวได้
• ผลข้างเคียงจากการผ่าตัด: หลังการผ่าตัดบางชนิด โดยเฉพาะการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับสมองหรือระบบประสาท อาจมีอาการตาพร่ามัวชั่วคราวเป็นผลข้างเคียง ซึ่งมักจะหายไปเองได้
• การขาดวิตามินบางชนิด: เช่น วิตามินบี 12 หรือวิตามินเอ อาจส่งผลต่อสุขภาพตาและทำให้เกิดอาการตาพร่ามัวได้
• ไมเกรน: ก่อนหรือระหว่างอาการปวดหัวไมเกรน บางรายอาจมีอาการตาพร่ามัวร่วมด้วย
• การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป: แอลกอฮอล์มีผลต่อระบบประสาทและการไหลเวียนโลหิต จึงอาจทำให้เกิดอาการตาพร่ามัวได้

เมื่อใดควรไปพบแพทย์?

แม้ว่าตาพร่ามัวชั่วคราวส่วนใหญ่จะหายไปเองได้ แต่หากอาการ:

• เกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือเป็นเวลานาน
• ร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะ พูดไม่ชัด อ่อนแรงครึ่งซีก หรือสูญเสียการมองเห็น
• ไม่หายไปหลังจากพักผ่อนหรือรับประทานอาหาร

ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม อย่าชะล่าใจ เพราะอาการตาพร่ามัวชั่วคราวอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่มีความร้ายแรงได้ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน หรือโรคเกี่ยวกับตาอื่นๆ

ข้อควรระวัง: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับสุขภาพตา ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพตาโดยตรง เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่ถูกต้อง