อาการแบบไหนควรตรวจภายใน

การตรวจภายใน: เมื่อไหร่ที่จำเป็นต้องพบแพทย์

การดูแลสุขภาพทางนรีเวชเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของผู้หญิงทุกคน การตรวจภายในเป็นส่วนสำคัญของการดูแลประจำปี โดยทั่วไป ผู้หญิงควรได้รับการตรวจภายในอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจสอบสุขภาพของอวัยวะภายในและระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่มีบางอาการที่บ่งชี้ว่าคุณควรพบแพทย์เพื่อขอการตรวจภายในอย่างเร่งด่วน

อาการใดบ้างที่ควรทำให้คุณรีบไปพบแพทย์เพื่อขอการตรวจภายใน? คำตอบสั้นๆ คือ เมื่อคุณรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติกับสุขภาพทางนรีเวชของคุณ การตรวจภายในอาจจำเป็นเมื่อคุณมีอาการดังต่อไปนี้:

• เลือดออกผิดปกติหลังการมีเพศสัมพันธ์: เลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์อาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น การอักเสบของเยื่อบุโพรงมดลูกหรือการฉีกขาดของเยื่อบุภายในช่องคลอด โดยเฉพาะถ้าเลือดออกมากผิดปกติหรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดท้องน้อย ควรพบแพทย์ทันที

• ปวดท้องน้อยรุนแรง: อาการปวดท้องน้อยรุนแรงที่ไม่ทุเลาลง อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ มดลูกอักเสบ หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ปวดท้องน้อยที่เกิดขึ้นพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น ไข้ หนาวสั่น หรือมีตกขาวผิดปกติจำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

• อาการแสบหรือเจ็บขณะปัสสาวะ: อาการเจ็บหรือแสบขณะปัสสาวะ อาจเกิดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือการอักเสบของอวัยวะใกล้เคียง โดยเฉพาะเมื่อมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น มีตกขาวผิดปกติหรือไข้ ควรปรึกษาแพทย์อย่างเร่งด่วน

• ตกขาวสีเหลืองเขียวปนเลือดและมีไข้หรือหนาวสั่น: ตกขาวที่ผิดปกติ เช่น สีเหลืองเขียว ปนเลือด หรือมีกลิ่นเหม็น อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ โดยเฉพาะเมื่อมีไข้หรือหนาวสั่น นี่คือสัญญาณที่ควรเข้ารับการตรวจภายในและรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง

• อาการอื่นๆ ที่ผิดปกติ: นอกเหนือจากอาการข้างต้น คุณควรพบแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการผิดปกติอื่นๆ ในบริเวณช่องคลอด เช่น มีอาการคันอย่างรุนแรง มีอาการปวดอย่างต่อเนื่อง หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ที่กังวลใจ อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน การรักษาที่เร็วจะช่วยลดความรุนแรงและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้

การตรวจภายในมีความสำคัญในการตรวจหาปัญหาสุขภาพทางนรีเวชอย่างทันท่วงที เพื่อให้สามารถรับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลใจเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ