อาการแบบไหนถึงเรียกรถพยาบาลได้

เมื่อไหร่ควรเรียกรถพยาบาล? อย่าประมาทกับชีวิตของคุณ

ความรวดเร็วในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลเป็นปัจจัยสำคัญต่อการรอดชีวิตและการฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน การตัดสินใจว่าควรเรียกรถพยาบาลหรือไม่นั้น อาจเป็นเรื่องยากลำบาก แต่การรู้จักสังเกตอาการและเข้าใจความร้ายแรงของสถานการณ์จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว อย่ารอจนกระทั่งอาการแย่ลงกว่าเดิม นี่คือแนวทางในการพิจารณาว่าควรเรียกรถพยาบาลเมื่อใด:

กรณีฉุกเฉินที่ต้องเรียกรถพยาบาลโดยทันที:

• อาการทางหัวใจและหลอดเลือด: เจ็บหน้าอกกดทับแน่น ร้าวไปที่แขน คาง หรือหลัง หายใจติดขัด หายใจหอบเหนื่อย เป็นลมหมดสติ ชีพจรเต้นเร็วผิดปกติหรือเต้นอ่อนแรง อาการเหล่านี้บ่งชี้ถึงภาวะหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต

• ปัญหาการหายใจ: หายใจลำบากอย่างรุนแรง หายใจเร็วและถี่ หายใจไม่ทั่วถึง มีเสียงหวีดเวลาหายใจ ริมฝีปากหรือเล็บเขียวคล้ำ อาการเหล่านี้สามารถเกิดจากภาวะปอดบวม หอบหืดกำเริบรุนแรง หรือการแพ้ที่รุนแรงจนถึงขั้นหายใจไม่ออก

• ภาวะเลือดออกรุนแรง: เลือดออกมากและหยุดไม่ได้ เช่น เลือดออกจากบาดแผลใหญ่ เลือดออกทางช่องคลอดหรือทวารหนักอย่างรุนแรง อาการเหล่านี้สามารถนำไปสู่ภาวะช็อกได้อย่างรวดเร็ว

• การหมดสติหรือชัก: หมดสติไปโดยไม่มีสาเหตุ ชักกระตุกอย่างรุนแรงและนาน การหมดสติหรือชักอาจเกิดจากหลายสาเหตุ รวมถึงการบาดเจ็บที่ศีรษะ โรคลมชัก หรือภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งต้องการการดูแลอย่างเร่งด่วน

• อาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis): มีอาการบวมที่ใบหน้า ลิ้น หรือลำคอ หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน เป็นลม อาการแพ้รุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้อย่างรวดเร็ว

• บาดเจ็บรุนแรง: กระดูกหักผิดรูป บาดแผลลึกและฉกรรจ์ การบาดเจ็บที่ศีรษะ การถูกไฟไหม้หรือไฟลวก อุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือการบาดเจ็บอื่นๆ ที่รุนแรง ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

• พิษจากสารเคมีหรือยา: กินยาเกินขนาด สัมผัสสารเคมีอันตราย หรือได้รับพิษจากพืช สิ่งสำคัญคือต้องแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเกี่ยวกับสารพิษที่เกี่ยวข้องเพื่อการรักษาที่เหมาะสม

นอกเหนือจากนี้ หากคุณไม่แน่ใจว่าควรเรียกรถพยาบาลหรือไม่ ควรโทรปรึกษาแพทย์หรือหน่วยบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ เพราะความปลอดภัยของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

การเรียกรถพยาบาลอาจช่วยชีวิตคุณหรือผู้อื่นได้ อย่าประมาทกับสัญญาณเตือนของร่างกาย การได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก