อาการแพ้มีกี่ระดับ

อาการแพ้: ระดับความรุนแรงและการวินิจฉัย

อาการแพ้เกิดเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะไม่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น อาการแพ้สามารถแบ่งออกเป็นสามระดับความรุนแรง ได้แก่ อาการแพ้เล็กน้อย, ปานกลาง และรุนแรง

อาการแพ้เล็กน้อย

อาการแพ้เล็กน้อยถือเป็นระดับความรุนแรงต่ำที่สุด โดยมักแสดงออกทางผิวหนัง อาการทั่วไป ได้แก่:

• ผื่นคัน
• ลมพิษ
• ใบหน้าบวม
• อาการคันตาหรือคันจมูก

อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ ในบางกรณี อาจจำเป็นต้องแยกโรคออกจากอาการที่คล้ายคลึงกัน เช่น ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน

อาการแพ้ปานกลาง

อาการแพ้ปานกลางมีความรุนแรงมากกว่าอาการแพ้เล็กน้อย อาจรวมถึงอาการทางผิวหนังที่รุนแรงขึ้น เช่น ผื่นแดงหรือบวมที่แพร่กระจายไปทั่วร่างกาย อาการอื่นๆ ได้แก่:

• คลื่นไส้และอาเจียน
• หายใจลำบาก
• ใจสั่น

อาการเหล่านี้อาจเริ่มต้นภายในไม่กี่นาทีหรือหลายชั่วโมงหลังจากสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ และอาจคงอยู่ได้นานหลายชั่วโมงหรือหลายวัน

อาการแพ้รุนแรง

อาการแพ้รุนแรงซึ่งเรียกว่าอาการแพ้รุนแรงเป็นภาวะที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ อาการทั่วไป ได้แก่:

• หายใจลำบากอย่างรุนแรง
• ลิ้นคอหรือใบหน้าบวมอย่างรุนแรง
• วิงเวียนศีรษะหรือหมดสติ
• ความดันโลหิตต่ำ
• ชีพจรเร็วและอ่อน

อาการแพ้รุนแรงอาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและรุนแรงมาก โดยมักเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีหลังจากสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ หากสงสัยว่ามีอาการแพ้รุนแรง ให้รีบไปพบแพทย์หรือโทรแจ้งสายด่วนฉุกเฉินทันที

การวินิจฉัยและการรักษาอาการแพ้

การวินิจฉัยอาการแพ้โดยทั่วไปอาศัยประวัติของผู้ป่วยและการตรวจร่างกาย แพทย์อาจแนะนำการทดสอบเพิ่มเติม เช่น การทดสอบสะกิดผิวหรือการตรวจเลือดเพื่อยืนยันการวินิจฉัย

การรักษาอาการแพ้จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ในกรณีที่มีอาการแพ้เล็กน้อย การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้มักเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด อาจใช้ยาแก้แพ้ เช่น อะนาลินและเซทิไรซีน เพื่อบรรเทาอาการทางผิวหนัง ในกรณีที่มีอาการแพ้ปานกลาง แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาสเตียรอยด์หรือยาแก้แพ้ที่แรงกว่า ในกรณีที่แพ้รุนแรง อาจต้องใช้การฉีดอะดรีนาลีน (EpiPen) และการดูแลทางการแพทย์ฉุกเฉิน