อุณหภูมิร่างกายสูงตอนไหน

รู้ทันไข้: สัญญาณเตือนภัยสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นประจำถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในยุคที่โรคติดเชื้ออย่างโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด แต่การรู้ว่าอุณหภูมิเท่าไหร่ถึงเรียกว่า “ไข้” และไข้ระดับใดที่ควรต้องกังวลนั้นสำคัญยิ่งกว่า เพื่อที่จะได้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างได้อย่างถูกต้อง

แม้ว่าช่วงอุณหภูมิร่างกายปกติจะอยู่ที่ 35.4-37.4 องศาเซลเซียส แต่อุณหภูมิของแต่ละคนอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ กิจกรรมที่ทำ เวลาในแต่ละวัน และแม้แต่ตำแหน่งที่วัดอุณหภูมิ ดังนั้นการรู้จักอุณหภูมิปกติของตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ

เมื่อใดที่ถือว่ามีไข้? เราสามารถแบ่งระดับของไข้ได้ดังนี้:

• ไข้ต่ำ (37.5-38.4 องศาเซลเซียส): ในระดับนี้อาจมีอาการรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย เช่น ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย หรือหนาวสั่น ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

• ไข้ปานกลาง (38.5-39.4 องศาเซลเซียส): อาการจะชัดเจนขึ้น เช่น ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร และอาจมีอาการอื่นๆ เช่น ไอ น้ำมูกไหล ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร และอาจต้องรับประทานยาตามคำแนะนำ

• ไข้สูง (39.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป): ถือว่าเป็นภาวะที่อันตราย อาจทำให้เกิดอาการชัก เพ้อ และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง

นอกจากระดับของไข้แล้ว ระยะเวลาที่มีไข้ก็เป็นสิ่งสำคัญ ไข้ที่ไม่ลดลงภายใน 2-3 วัน หรือไข้ที่กลับมาเป็นซ้ำหลังจากหายไปแล้ว ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์เพื่อหาสาเหตุ

อย่าลืมว่าไข้เป็นเพียงอาการของโรค ไม่ใช่โรค การรักษาที่ถูกต้องคือการรักษาที่ต้นเหตุของไข้ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นประจำจึงเป็นเพียงจุดเริ่มต้น หากมีข้อสงสัยหรือกังวลใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด.