เครียดระดับไหนควรพบจิตแพทย์

6 การดู

หากคุณรู้สึกว่าอารมณ์ผันผวนอย่างรุนแรง, ทนต่อความเครียดได้ยาก, ไม่มีสมาธิ, หรือมีอาการวิตกกังวลอย่างมาก เช่น ใจสั่นและหัวใจเต้นเร็ว คุณควรปรึกษาจิตแพทย์เพื่อรับการประเมินและดูแลอย่างเหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สัญญาณเตือนภัย! เมื่อไหร่ที่ ‘ความเครียด’ กำลังบอกให้คุณไปพบจิตแพทย์?

ชีวิตคนเราย่อมต้องเผชิญกับความเครียดเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องเรียน หรือแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัว แต่รู้หรือไม่ว่า “ความเครียด” หากสะสมมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อทั้งร่างกายและจิตใจ จนกลายเป็นภัยเงียบที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตโดยไม่รู้ตัว แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ควรไปพบจิตแพทย์?

บทความนี้รวบรวมสัญญาณเตือนภัยที่ “ความเครียด” กำลังบอกให้คุณรีบไปพบจิตแพทย์ เพื่อรับการประเมินและดูแลอย่างเหมาะสม

1. อารมณ์แปรปรวน เหมือนรถไฟเหาะตีลังกา

จากที่เคยเป็นคนใจเย็น กลับกลายเป็นคนโมโหง่าย หงุดหงิดง่าย รู้สึกเศร้าหมอง ไม่อยากทำอะไร หรือแม้กระทั่งร้องไห้โดยไม่ทราบสาเหตุ หากคุณกำลังเผชิญกับภาวะอารมณ์แปรปรวนที่ควบคุมได้ยาก อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าระดับความเครียดของคุณอยู่ในขั้นที่ต้องพบจิตแพทย์

2. ความอดทนต่ำ รับมือกับอะไรก็ยากไปหมด

สิ่งที่เคยทำได้ง่ายๆ กลับกลายเป็นเรื่องยากลำบากไปเสียหมด ความอดทนลดน้อยลง รู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ ไม่อยากทำอะไร และปล่อยปละละเลยตัวเอง นั่นอาจเป็นเพราะความเครียดกำลังบั่นทอนจิตใจของคุณ การพบจิตแพทย์จะช่วยให้คุณรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น

3. สมองเบลอ ความจำสั้น สมาธิสั้นลง

ความเครียดส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมอง หากคุณรู้สึกว่าตัวเองหลงลืมบ่อยๆ สมองเบลอ คิดอะไรไม่ออก ไม่มีสมาธิในการทำงาน เรียนหนังสือ หรือทำกิจกรรมต่างๆ นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าความเครียดกำลังส่งผลเสียต่อการทำงานของสมอง

4. วิตกกังวลเกินเหตุ ร่างกายส่งสัญญาณเตือน

อาการวิตกกังวลเป็นผลพวงที่พบได้บ่อยจากความเครียด หากคุณมีอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว หายใจไม่อิ่ม แน่นหน้าอก มือเท้าเย็น เหงื่อออกมากผิดปกติ นอนไม่หลับ หรือแม้กระทั่งมีอาการทางร่างกายอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดหัว ปวดท้อง ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกวิธี

อย่าปล่อยให้ “ความเครียด” ครอบงำชีวิต จนสายเกินแก้!

การดูแลสุขภาพจิตมีความสำคัญไม่แพ้การดูแลสุขภาพร่างกาย หากคุณมีอาการเหล่านี้ อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากจิตแพทย์ เพราะการได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยให้คุณกลับมามีชีวิตที่สดใส และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน