เบาหวานมีอาการปวดขาไหม

6 การดู

วิธีสังเกตอาการ เบาหวานลงเท้า

หากเท้าของคุณชาหรือรู้สึกเหน็บๆ เริ่มจากปลายนิ้วเท้าและลามขึ้นไปยังหลังเท้าหรือขา อาจเป็นอาการเบาหวานลงเท้า ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดแปล๊บๆ เหมือนไฟช็อตที่เท้าทั้งสองข้าง หรือมีอาการเท้าร้อนวูบวาบ หรือปวดแสบปวดร้อนที่เท้า สีผิวบริเวณเท้าซีดลงหรือคล้ำขึ้นจนสังเกตได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เบาหวานกับอาการปวดขา: มากกว่าแค่ความรู้สึกชา

โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายหลายระบบ โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบไหลเวียนโลหิต และหนึ่งในอาการที่ผู้ป่วยเบาหวานมักประสบพบคืออาการปวดขาหรือที่เรียกว่า “เบาหวานลงเท้า” ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึกชาหรือเหน็บชาอย่างที่หลายคนเข้าใจ อาการปวดขาในผู้ป่วยเบาหวานมีความหลากหลายและซับซ้อนกว่านั้น

อาการปวดขาในผู้ป่วยเบาหวานเกิดจากภาวะแทรกซ้อนสองประการหลัก คือ โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย (Peripheral Arterial Disease: PAD) และ โรคประสาทส่วนปลาย (Peripheral Neuropathy)

โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย (PAD) เกิดจากการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงขาและเท้าได้ลดลง อาการที่พบได้คือ ปวดขาเมื่อเดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่น่อง และอาการปวดจะทุเลาลงเมื่อหยุดพัก นอกจากนี้ อาจพบอาการขาเย็น ผิวหนังซีด หรือแผลที่หายช้าบริเวณขาและเท้า

โรคประสาทส่วนปลาย (Peripheral Neuropathy) เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงที่ทำลายเส้นประสาท ส่งผลให้อาการปวดมีความแตกต่างกันไป ผู้ป่วยอาจรู้สึกชา เหน็บชา หรือปวดแสบปวดร้อนที่เท้าและขา บางรายอาจรู้สึกเหมือนถูกไฟช็อต หรือมีอาการปวดแบบตุ๊บๆ แปล๊บๆ อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นในเวลากลางคืนและรุนแรงขึ้นเมื่ออยู่ในที่มืดหรืออุณหภูมิต่ำ นอกจากนี้ ผิวหนังอาจแห้ง แตก และมีแผลได้ง่าย

อาการอื่นๆ ที่บ่งชี้ถึงเบาหวานลงเท้า:

  • เปลี่ยนแปลงของสีผิว: ผิวหนังบริเวณเท้าอาจซีด คล้ำ หรือแดงผิดปกติ
  • บวม: เท้าและข้อเท้าอาจบวม
  • แผลที่หายยาก: แผลเล็กๆ บริเวณเท้าอาจหายช้าหรือติดเชื้อได้ง่าย
  • การสูญเสียความรู้สึก: อาจไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด ความร้อน หรือความเย็นที่เท้า
  • เล็บหนาและผิดรูป: เล็บอาจหนา เหลือง และผิดรูปทรง

สิ่งสำคัญคือ หากคุณมีอาการปวดขา ชา หรือเหน็บชาที่เท้า ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย การวินิจฉัยที่รวดเร็วและการรักษาที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น การติดเชื้อ แผลเรื้อรัง และการตัดขา การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ การดูแลเท้าอย่างเหมาะสม และการออกกำลังกายเป็นประจำ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและบรรเทาอาการเบาหวานลงเท้า

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ กรุณาปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม