เป็นไทรอยด์กินกะหล่ำปลีได้ไหม

0 การดู

สำหรับผู้เป็นไทรอยด์ สามารถทานผักตระกูลกะหล่ำได้ในปริมาณที่พอเหมาะ โดยไม่จำเป็นต้องงดเว้นเด็ดขาด การบริโภคในปริมาณที่สมดุลไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์มากนัก ผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษก็สามารถทานได้เช่นกันโดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไทรอยด์กับกะหล่ำปลี: กินได้หรือต้องเลี่ยง? ไขข้อข้องใจเรื่องอาหารกับการดูแลไทรอยด์

สำหรับผู้ที่กำลังเผชิญหน้ากับภาวะไทรอยด์ ไม่ว่าจะเป็นไทรอยด์ทำงานเกิน (ไทรอยด์เป็นพิษ) หรือไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism) มักมีความกังวลใจเกี่ยวกับอาหารการกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักตระกูลกะหล่ำ ที่ดูเหมือนจะเป็นหัวข้อถกเถียงกันมานาน ว่ากินได้จริงหรือไม่ หรือควรงดเว้นเพื่อสุขภาพที่ดีของต่อมไทรอยด์

บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจเรื่อง “ไทรอยด์กับกะหล่ำปลี” อย่างละเอียด เจาะลึกถึงข้อดีข้อเสีย และแนวทางการบริโภคที่เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถเลือกรับประทานได้อย่างสบายใจ และดูแลสุขภาพไทรอยด์ได้อย่างถูกต้อง

ทำไมกะหล่ำปลีถึงเป็นที่กังวลสำหรับผู้ป่วยไทรอยด์?

ผักตระกูลกะหล่ำ ไม่ว่าจะเป็น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลี คะน้า หรือผักกาดขาว ล้วนมีสารประกอบที่เรียกว่า “กอยโตรเจน” (Goitrogens) สารนี้มีคุณสมบัติในการขัดขวางการดูดซึมไอโอดีน ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ต่อมไทรอยด์ใช้ในการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ภาวะขาดไอโอดีนอาจนำไปสู่ภาวะต่อมไทรอยด์โต หรือที่เรียกว่า “คอพอก” (Goiter)

ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงกังวลว่าการบริโภคผักตระกูลกะหล่ำจะส่งผลเสียต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นไทรอยด์อยู่แล้ว

ความจริงเกี่ยวกับกะหล่ำปลีกับไทรอยด์: ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด

ถึงแม้ว่าผักตระกูลกะหล่ำจะมีกอยโตรเจน แต่ปริมาณที่มีไม่ได้สูงจนน่ากังวล หากบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ และมีรูปแบบการบริโภคที่เหมาะสม ก็แทบจะไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์เลย

  • ปริมาณที่เหมาะสม: การรับประทานผักตระกูลกะหล่ำในปริมาณมากเกินไปและเป็นประจำทุกวัน อาจส่งผลกระทบต่อการดูดซึมไอโอดีนได้ แต่หากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ (ประมาณ 1-2 ถ้วยต่อวัน) ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา
  • การปรุงสุก: ความร้อนจากการปรุงสุก สามารถลดปริมาณกอยโตรเจนในผักตระกูลกะหล่ำได้ การนำไปต้ม ผัด หรือนึ่ง จะช่วยลดปริมาณกอยโตรเจนลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
  • ความหลากหลายของอาหาร: การรับประทานอาหารที่หลากหลายและสมดุล จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน รวมถึงไอโอดีนจากแหล่งอื่นๆ เช่น อาหารทะเล เกลือเสริมไอโอดีน หรือผลิตภัณฑ์นม

ผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษกินกะหล่ำปลีได้ไหม?

สำหรับผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษ ที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป การบริโภคผักตระกูลกะหล่ำอาจมีประโยชน์ด้วยซ้ำ เพราะกอยโตรเจนในผักเหล่านี้ อาจช่วยลดการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ลงได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

ข้อควรจำและคำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ปรึกษาแพทย์: สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและระดับฮอร์โมนไทรอยด์ของแต่ละบุคคล
  • สังเกตอาการ: สังเกตอาการของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ หากพบอาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
  • เลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีน: หากกังวลเรื่องการขาดไอโอดีน สามารถปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีนได้
  • รับประทานอาหารให้หลากหลาย: เน้นการรับประทานอาหารที่หลากหลายและสมดุล เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน

สรุป:

ผู้ป่วยไทรอยด์สามารถรับประทานผักตระกูลกะหล่ำได้ แต่ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ ปรุงสุกก่อนรับประทาน และรับประทานอาหารให้หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน ที่สำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถดูแลสุขภาพไทรอยด์ไปพร้อมๆ กับการเพลิดเพลินกับรสชาติของผักตระกูลกะหล่ำได้อย่างสบายใจ