เพราะเหตุใดจึงรู้สึกกระหายน้ำ

กระหายน้ำ…สัญญาณเตือนที่ร่างกายส่งมา: อย่าละเลยความรู้สึกนี้!

ความรู้สึกกระหายน้ำเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายที่ส่งสัญญาณบอกว่าเราต้องการน้ำเพื่อรักษาสมดุลของเหลวภายในร่างกาย แต่หากคุณรู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลา แม้จะดื่มน้ำไปมากแล้ว นั่นอาจไม่ใช่แค่เรื่องปกติธรรมดา! อาการกระหายน้ำอย่างต่อเนื่อง (Polydipsia) อาจเป็นสัญญาณเตือนที่ร่างกายพยายามสื่อสารว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นภายใน

ทำไมเราถึงรู้สึกกระหายน้ำ?

โดยทั่วไปแล้ว ร่างกายจะกระตุ้นความรู้สึกกระหายน้ำเมื่อระดับของเหลวในร่างกายลดลง หรือเมื่อความเข้มข้นของเกลือแร่ในเลือดสูงขึ้น ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น

• การสูญเสียน้ำ: ไม่ว่าจะเป็นการเสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย, การอยู่ในสภาพอากาศร้อน, อาการท้องเสีย หรืออาเจียน ล้วนทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและกระตุ้นให้เรารู้สึกกระหาย
• การรับประทานอาหาร: อาหารที่มีรสเค็มจัด หรืออาหารที่ต้องใช้ปริมาณน้ำมากในการย่อย เช่น อาหารแห้ง ก็สามารถทำให้เรารู้สึกกระหายน้ำได้
• การใช้ยาบางชนิด: ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาแก้แพ้ หรือยาที่ใช้รักษาโรคทางจิตเวช อาจมีผลข้างเคียงทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ หรือกระตุ้นความรู้สึกกระหายน้ำ

แต่เมื่อไหร่ที่ความกระหายน้ำกลายเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ?

หากคุณดื่มน้ำในปริมาณมากแล้ว (มากกว่า 3 ลิตรต่อวัน) แต่ยังคงรู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลา หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ (Polyuria), อ่อนเพลีย, ปากแห้ง, ผิวแห้ง หรือเวียนศีรษะ นั่นอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด

โรคและภาวะที่อาจทำให้เกิดอาการกระหายน้ำผิดปกติ:

• โรคเบาหวาน: ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไปจะดึงน้ำออกจากเซลล์ ทำให้ร่างกายขาดน้ำและรู้สึกกระหาย
• โรคเบาจืด: เป็นโรคที่ไตไม่สามารถดูดซึมน้ำกลับเข้าสู่ร่างกายได้ ทำให้ปัสสาวะบ่อยและกระหายน้ำมาก
• การทำงานของไตผิดปกติ: ไตมีหน้าที่รักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย หากไตทำงานผิดปกติ อาจทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำและเกลือแร่ได้
• ภาวะขาดน้ำเรื้อรัง: การดื่มน้ำไม่เพียงพอในระยะเวลานาน อาจทำให้ร่างกายปรับตัวจนเกิดภาวะขาดน้ำเรื้อรัง และทำให้รู้สึกกระหายน้ำอยู่เสมอ
• โรคทางจิตเวช: ภาวะทางจิตเวชบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการกระหายน้ำผิดปกติได้

อย่าปล่อยทิ้งไว้! รีบปรึกษาแพทย์

หากคุณรู้สึกว่าความกระหายน้ำของคุณเป็นเรื่องที่ผิดปกติและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการ

การวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น และช่วยให้คุณกลับมามีสุขภาพที่ดีได้อีกครั้ง อย่าปล่อยให้ความรู้สึกกระหายน้ำที่ไม่ปกติมาบั่นทอนคุณภาพชีวิตของคุณ!