เมื่อสัมผัสสารเคมี ควรปฏิบัติอย่างไร

3 การดู

เมื่อสัมผัสสารเคมีกับผิวหนัง ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดนานอย่างน้อย 15 นาที เพื่อชะล้างสารเคมีออกจากผิว หลีกเลี่ยงการใช้สารแก้พิษทางเคมีเพราะอาจเกิดปฏิกิริยาร้อนทำอันตรายผิวได้ แนะนำให้ประคบเย็น บรรเทาอาการปวด และป้องกันภาวะช็อกก่อนนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สัมผัสสารเคมี…อย่าตระหนก! คู่มือปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัย

อุบัติเหตุจากการสัมผัสสารเคมีเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในห้องปฏิบัติการ, โรงงานอุตสาหกรรม, หรือแม้แต่ในครัวเรือนของเราเอง ความรวดเร็วและการตัดสินใจที่ถูกต้องในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสามารถช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บ และป้องกันผลกระทบระยะยาวได้ ดังนั้น การมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการรับมือเมื่อสัมผัสสารเคมีจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

เมื่อสารเคมีสัมผัสผิวหนัง…สิ่งที่ต้องทำทันที

  1. ล้าง…ล้าง…และล้าง: หัวใจสำคัญของการปฐมพยาบาลเมื่อสารเคมีสัมผัสผิวหนังคือการชะล้างสารเคมีออกจากผิวหนังให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใช้น้ำสะอาด (น้ำประปาธรรมดา) ในปริมาณมาก ล้างบริเวณที่สัมผัสนานอย่างน้อย 15 นาที หากสารเคมีสัมผัสบริเวณกว้าง ควรอาบน้ำโดยเร็วที่สุด

    • เหตุผล: การล้างด้วยน้ำจะช่วยเจือจางความเข้มข้นของสารเคมี และลดระยะเวลาที่สารเคมีสัมผัสกับผิวหนัง ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้น
    • ข้อควรจำ: ระหว่างการล้าง ให้ถอดเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับที่ปนเปื้อนสารเคมีออกด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันการสัมผัสสารเคมีซ้ำ
  2. หลีกเลี่ยงการใช้สารแก้พิษ (Antidote) เอง: แม้ว่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับสารแก้พิษสำหรับสารเคมีบางชนิด แต่การใช้สารแก้พิษโดยปราศจากคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญอาจเป็นอันตรายได้ สารแก้พิษบางชนิดอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่รุนแรงขึ้นเมื่อสัมผัสกับสารเคมีที่สัมผัสผิวหนังอยู่เดิม ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงได้

    • เหตุผล: การใช้สารแก้พิษที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความร้อน, การกัดกร่อน, หรือปฏิกิริยาที่ไม่คาดฝัน ซึ่งจะเพิ่มความเสียหายให้กับผิวหนัง
  3. ประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการ: หลังจากชะล้างสารเคมีออกแล้ว หากมีอาการปวดแสบปวดร้อน หรือผิวหนังบวมแดง สามารถใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็นประคบบริเวณที่สัมผัสสารเคมี เพื่อช่วยลดอาการปวดและบวม

    • ข้อควรระวัง: ห้ามใช้น้ำแข็งประคบโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดอาการ Frostbite (ผิวหนังถูกความเย็นจัด) ได้ ควรห่อผ้าขนหนูบางๆ ก่อนนำไปประคบ
  4. ป้องกันภาวะช็อก: อาการช็อกอาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่สัมผัสสารเคมีในปริมาณมาก หรือสารเคมีมีความรุนแรงสูง สังเกตอาการของผู้ป่วย เช่น หน้าซีด, เหงื่อออกมาก, ชีพจรเต้นเร็ว, หายใจถี่ หากมีอาการเหล่านี้ ให้รีบโทรแจ้ง 1669 และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

    • วิธีป้องกันภาวะช็อก: ให้ผู้ป่วยนอนราบ ยกเท้าสูงเล็กน้อย คลายเสื้อผ้าให้หลวม และให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย

เมื่อไหร่ที่ต้องไปโรงพยาบาล

  • เมื่อสัมผัสสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง (เช่น กรดแก่, ด่างแก่)
  • เมื่อสัมผัสสารเคมีในบริเวณกว้างของร่างกาย
  • เมื่อมีอาการปวดแสบปวดร้อนรุนแรง, ผิวหนังพุพอง, หรือมีอาการอื่นๆ ที่ผิดปกติ
  • เมื่อมีอาการระบบทางเดินหายใจผิดปกติ (เช่น หายใจลำบาก, ไอ, เจ็บหน้าอก)
  • เมื่อไม่แน่ใจในชนิดของสารเคมีที่สัมผัส

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้:

  • อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด: ก่อนใช้สารเคมีใดๆ ควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อทราบถึงอันตราย, ข้อควรระวัง, และวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
  • สวมอุปกรณ์ป้องกัน: สวมถุงมือ, แว่นตา, และอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ ที่เหมาะสม เมื่อต้องจัดการกับสารเคมี
  • เก็บสารเคมีให้พ้นมือเด็ก: เก็บสารเคมีในที่ที่ปลอดภัย และพ้นมือเด็ก
  • โทรแจ้ง 1669: หากมีอาการรุนแรงหรือไม่แน่ใจ ให้รีบโทรแจ้ง 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์

การมีความรู้และความพร้อมในการรับมือเมื่อสัมผัสสารเคมี สามารถช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ และปกป้องสุขภาพของคุณและคนที่คุณรักได้