เลือดกรุ๊ปไหนเมาง่ายสุด

เลิกเชื่อ! เลือดกรุ๊ปไม่เกี่ยว เมาง่ายอยู่ที่อะไรกันแน่?

หลายคนอาจเคยได้ยินคำกล่าวอ้างที่ว่า คนเลือดกรุ๊ปนั้นเมาง่ายกว่าคนเลือดกรุ๊ปนี้ บ้างก็ว่าเลือดกรุ๊ป A เมาง่าย บ้างก็ว่าเลือดกรุ๊ป O ทนแอลกอฮอล์ได้ดีกว่า แต่น่าเสียดายที่ความเชื่อเหล่านี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือมารองรับอย่างชัดเจน

ความจริงแล้ว ปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับความเมาของแต่ละบุคคลนั้นซับซ้อนกว่าการแบ่งแยกตามกรุ๊ปเลือดมาก มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ลักษณะทางกายภาพไปจนถึงพฤติกรรมการดื่ม ตัวอย่างเช่น:

• น้ำหนักตัว: คนที่มีน้ำหนักตัวมากจะมีปริมาณน้ำในร่างกายมากกว่า ทำให้ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดเจือจางลง ส่งผลให้เมาช้ากว่าคนที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่าที่ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณเท่ากัน

• เพศ: โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงมักจะเมาเร็วกว่าผู้ชาย เนื่องจากมีปริมาณเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยสลายแอลกอฮอล์น้อยกว่า และมีสัดส่วนไขมันในร่างกายมากกว่า ซึ่งไขมันไม่ดูดซับแอลกอฮอล์ ทำให้ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดสูงขึ้น

• อัตราการเผาผลาญ: แต่ละคนมีอัตราการเผาผลาญที่แตกต่างกัน คนที่เผาผลาญได้เร็วจะกำจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้เร็วกว่า ทำให้เมาช้ากว่า

• ปริมาณและชนิดของแอลกอฮอล์: ยิ่งดื่มมากและดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูง ก็ยิ่งเมาเร็วขึ้น

• ระยะเวลาในการดื่ม: การดื่มอย่างรวดเร็วทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดแอลกอฮอล์ได้ทัน ส่งผลให้เมาเร็วกว่าการดื่มอย่างช้าๆ

• การรับประทานอาหาร: การดื่มขณะท้องว่างจะทำให้แอลกอฮอล์ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วขึ้น ในขณะที่การรับประทานอาหารก่อนดื่มจะช่วยชะลอการดูดซึม

• พันธุกรรม: งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าพันธุกรรมอาจมีบทบาทในการตอบสนองต่อแอลกอฮอล์ แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจกลไกนี้อย่างชัดเจน

ดังนั้น แทนที่จะเชื่อเรื่องเลือดกรุ๊ป เราควรให้ความสำคัญกับปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น การดื่มอย่างรับผิดชอบ รู้จักขีดจำกัดของตนเอง และไม่ดื่มจนเกินไป คือวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันปัญหาจากการดื่มแอลกอฮอล์ และอย่าลืมว่าการไม่ดื่มเลยคือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพ