เวลาไอไม่ควรกินอะไร

ไอหนักอย่าได้ประมาท! อาหารเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงเด็ดขาด

อาการไอเป็นอาการที่พบได้บ่อย อาจเกิดจากการติดเชื้อ ไวรัส หรือแม้แต่การแพ้ ถึงแม้หลายคนจะมองว่าเป็นอาการเล็กน้อย แต่การเลือกทานอาหารอย่างถูกวิธีก็สำคัญไม่แพ้การรักษา เพราะอาหารบางชนิดอาจยิ่งทำให้ไอหนักขึ้น วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อคุณกำลังไอหนักๆ กันครับ

หลายคนอาจเข้าใจว่าการดื่มน้ำอุ่นและพักผ่อนเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอ แต่การเลือกทานอาหารก็มีผลต่อการบรรเทาอาการไออย่างไม่น่าเชื่อ หากคุณกำลังเผชิญกับอาการไอที่รุนแรง ควรหลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มต่อไปนี้โดยทันที:

1. อาหารรสจัดจ้าน ทั้งเผ็ดและเปรี้ยว: ความเผ็ดร้อนจากพริกและความเปรี้ยวจัดจากมะนาว มะขาม หรือน้ำส้มสายชู จะไปกระตุ้นและระคายเคืองเยื่อบุหลอดลม ทำให้ไอมากขึ้นและรู้สึกแสบร้อนในลำคอ ยิ่งไอเรื้อรังอยู่เดิม อาหารรสจัดเหล่านี้ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ไอหนักกว่าเดิม ควรเลือกอาหารรสชาติอ่อนๆ รสชาติธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่งมากเกินไป แทนที่จะไปเพิ่มความระคายเคืองให้กับลำคอ

2. อาหารทอดมันๆ และอาหารที่มีไขมันสูง: อาหารทอดกรอบๆ แม้จะดูน่าทาน แต่ไขมันสูงๆ จะไปเพิ่มภาระให้กับระบบทางเดินอาหาร อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และแน่นอนว่า ยิ่งทำให้ไอหนักขึ้น เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการย่อยอาหาร ส่งผลให้ระบบทางเดินหายใจทำงานหนักตามไปด้วย เลือกทานอาหารที่ปรุงด้วยวิธีต้ม นึ่ง หรืออบ จะดีต่อสุขภาพและช่วยบรรเทาอาการไอได้ดีกว่า

3. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์จะไปทำลายเยื่อบุหลอดลม ทำให้ระคายเคืองและไอหนักขึ้น นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ยากขึ้น ยิ่งทำให้ไอหายช้า ควรเลี่ยงแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาดในช่วงที่เป็นหวัดหรือไอ

4. ของหวานรสเข้มข้น: ไอศกรีม ขนมหวานที่มีน้ำตาลสูง หรือเครื่องดื่มหวานๆ อาจให้ความรู้สึกเย็นสบายชั่วคราว แต่ในระยะยาว น้ำตาลจะยิ่งเพิ่มความหนืดของเสมหะ ทำให้ไอมากขึ้นและเหนื่อยล้า เลือกทานของหวานที่ไม่หวานจัดหรือปริมาณน้อยๆ แทนที่จะทานมากๆในคราวเดียว

แทนที่จะทานอาหารเหล่านี้ ควรเลือกทานอาหารอ่อนๆ เช่น:

• โจ๊ก
• ข้าวต้ม
• ซุปใสๆ
• ผลไม้รสอ่อน เช่น กล้วยน้ำว้า (ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม)
• น้ำอุ่น น้ำสมุนไพร เช่น ขิง ตะไคร้ (ควรปรุงรสอ่อนๆ)

การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง การเลือกทานอาหารที่เหมาะสม และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรเทาอาการไอ หากอาการไอไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่นๆร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง อย่าปล่อยให้อาการไอเรื้อรังเป็นเวลานาน เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้