เวียนหัวบีบตรงไหน

6 การดู
อาการเวียนหัวที่รู้สึกเหมือนถูกบีบรัด อาจมีสาเหตุจากความเครียด, ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อบริเวณคอและศีรษะ, หรือการเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิต หากอาการไม่ดีขึ้น, รุนแรงขึ้น, หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มองเห็นไม่ชัด, ชา, อ่อนแรง, ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เวียนหัวบีบ: เมื่อความรู้สึกถูกบีบรัดครอบงำศีรษะ

อาการเวียนหัวเป็นอาการที่ใครหลายคนต้องเคยเผชิญ ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุเล็กน้อย เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรืออาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่านั้น แต่หากคุณเคยรู้สึกถึงอาการเวียนหัวที่มาพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรมากดทับหรือบีบรัดศีรษะ นั่นอาจเป็นอาการที่เรียกว่า เวียนหัวบีบ ซึ่งมีความแตกต่างจากอาการเวียนหัวทั่วไปอยู่บ้าง

อาการเวียนหัวบีบมักมาพร้อมกับความรู้สึกตึงเครียดหรือเจ็บปวดบริเวณศีรษะ คล้ายกับมีแถบรัดรอบศีรษะอย่างแน่นหนา ความรู้สึกนี้อาจเกิดขึ้นบริเวณหน้าผาก ขมับ ท้ายทอย หรืออาจกระจายไปทั่วศีรษะ อาการเวียนหัวอาจเป็นเพียงเล็กน้อย หรืออาจรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

อะไรคือสาเหตุของอาการเวียนหัวบีบ?

สาเหตุของอาการเวียนหัวบีบนั้นมีได้หลายประการ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อย ได้แก่:

  • ความเครียด: เมื่อร่างกายตกอยู่ในภาวะเครียด กล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า และศีรษะจะเกิดการเกร็งตัว ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกตึงและบีบรัดที่ศีรษะได้

  • ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ: การนั่งทำงานในท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน การนอนในท่าที่ไม่สบาย หรือการออกกำลังกายที่หนักเกินไป อาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอและศีรษะเกิดความตึงเครียดและส่งผลให้เกิดอาการเวียนหัวบีบ

  • การเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิต: ความดันโลหิตที่สูงหรือต่ำเกินไป อาจทำให้เกิดอาการเวียนหัวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงท่าทางอย่างรวดเร็ว

  • การขาดน้ำ: ภาวะขาดน้ำอาจส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนโลหิตในสมอง ทำให้เกิดอาการเวียนหัวและอ่อนเพลีย

  • การอดนอน: การพักผ่อนไม่เพียงพออาจส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาท ทำให้เกิดอาการเวียนหัวและมึนงง

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์?

อาการเวียนหัวบีบโดยส่วนใหญ่มักไม่เป็นอันตรายและสามารถบรรเทาได้ด้วยการพักผ่อน การผ่อนคลายความเครียด หรือการนวด แต่หากอาการเวียนหัวรุนแรงขึ้น ไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น:

  • มองเห็นไม่ชัด
  • ชาตามร่างกาย
  • อ่อนแรง
  • พูดลำบาก
  • ปวดศีรษะรุนแรง
  • มีไข้

ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หรือเนื้องอกในสมอง การวินิจฉัยและการรักษาที่รวดเร็วจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

การดูแลตัวเองเมื่อมีอาการเวียนหัวบีบ:

  • พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
  • ผ่อนคลายความเครียด: ทำกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียด เช่น การทำสมาธิ การออกกำลังกายเบาๆ หรือการฟังเพลง
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน: พักผ่อนเป็นระยะๆ เมื่อต้องนั่งทำงานนานๆ และปรับท่านั่งให้ถูกต้อง
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
  • ประคบเย็นหรือประคบร้อน: ประคบเย็นบริเวณหน้าผากหรือขมับเพื่อลดอาการปวด หรือประคบร้อนบริเวณคอและบ่าเพื่อคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ
  • รับประทานยาแก้ปวด: หากอาการปวดรุนแรง สามารถรับประทานยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยา

อาการเวียนหัวบีบอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต แต่ด้วยการดูแลตัวเองที่เหมาะสมและการปรึกษาแพทย์เมื่อจำเป็น คุณสามารถจัดการกับอาการนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข