แผลพุพอง เป็นน้ําใสๆ กี่วันยุบ

แผลพุพองน้ำใส: เพื่อนตัวน้อยที่ต้องดูแลอย่างถูกวิธี

แผลพุพองน้ำใส เป็นอาการที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน อาจเกิดจากการเสียดสี การถูกความร้อน หรือแม้แต่การแพ้สารเคมีบางชนิด หลายคนเมื่อเห็นแผลพุพองก็มักจะอดใจไม่ไหวที่จะเจาะมันออก แต่จริงๆ แล้ว การดูแลแผลพุพองอย่างถูกวิธีสำคัญกว่ามาก เพราะจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น และลดโอกาสการติดเชื้อ

แผลพุพองน้ำใส… กี่วันถึงจะยุบ?

โดยทั่วไปแล้ว หากเราดูแลแผลพุพองน้ำใสอย่างถูกวิธี โดยที่ไม่ไปยุ่งกับมันมากนัก ปล่อยให้ผิวหนังชั้นนอกที่ปกคลุมแผลอยู่คงสภาพเดิม แผลจะค่อยๆ ยุบตัวลงภายใน 1-2 สัปดาห์ น้ำใสๆ ที่อยู่ภายในจะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ และผิวหนังก็จะค่อยๆ สมานกันเอง

เคล็ดลับการดูแลแผลพุพองน้ำใสอย่างถูกวิธี

• อย่าเจาะแผลเอง: การเจาะแผลพุพองด้วยตัวเอง เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพราะเป็นการเปิดประตูให้เชื้อโรคเข้าไปสู่บาดแผลได้ง่ายขึ้น
• ทำความสะอาดบริเวณรอบแผล: ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ จากนั้นทำความสะอาดบริเวณรอบแผลด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำสบู่อ่อนๆ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก
• ปิดแผลด้วยผ้าพันแผล: ปิดแผลด้วยผ้าพันแผลที่สะอาดและหลวมๆ เพื่อป้องกันการเสียดสี และป้องกันสิ่งสกปรก
• หลีกเลี่ยงการกดทับ หรือเสียดสี: พยายามหลีกเลี่ยงการกดทับ หรือเสียดสีบริเวณที่เป็นแผลพุพอง เช่น หากเป็นแผลที่เท้า ให้สวมรองเท้าที่ใส่สบายและหลีกเลี่ยงการเดินนานๆ
• เปลี่ยนผ้าพันแผลเป็นประจำ: เปลี่ยนผ้าพันแผลอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง หรือเมื่อผ้าพันแผลเปียกชื้น

เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์?

แม้ว่าแผลพุพองส่วนใหญ่จะหายได้เอง แต่หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม:

• แผลมีขนาดใหญ่: แผลพุพองที่มีขนาดใหญ่ อาจต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากแพทย์
• มีอาการปวด บวม แดง ร้อน: อาการเหล่านี้บ่งบอกถึงการอักเสบหรือติดเชื้อ
• มีหนอง: การมีหนอง แสดงว่าแผลติดเชื้อแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะ
• มีไข้: หากมีไข้ร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อรุนแรง

สรุป

แผลพุพองน้ำใส เป็นอาการที่ไม่น่ากังวล หากเราดูแลอย่างถูกวิธี โดยที่ไม่ไปแกะ เกา หรือเจาะแผล ปล่อยให้ร่างกายของเราจัดการซ่อมแซมตัวเองตามธรรมชาติ แผลก็จะค่อยๆ ยุบตัวลงภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากพบอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น