โรคขาดวิตามิน B2 จะมีอาการอย่างไร

5 การดู

โรคขาดวิตามินบี 2 หรือไรโบเฟลวิน ส่งผลต่อสุขภาพผิวและเยื่อบุช่องปาก อาการที่พบบ่อยคือ ปากนกกระจอก ริมฝีปากแตก รอยแยกที่มุมปาก ผิวหนังแห้งและแตก ลิ้นอักเสบ ตาแดง และอาจมีอาการไวต่อแสง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมื่อร่างกายร้องขอ ไรโบเฟลวิน: รู้เท่าทันอาการขาดวิตามิน B2

วิตามินบี 2 หรือไรโบเฟลวิน เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายหลายอย่าง ตั้งแต่การสร้างพลังงานไปจนถึงการรักษาสุขภาพผิวและดวงตา การขาดวิตามินชนิดนี้แม้จะไม่ใช่เรื่องที่พบได้บ่อย แต่ก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสุขภาพของเยื่อบุต่างๆ ในร่างกาย และอาการเหล่านี้มักจะไม่ปรากฏเด่นชัดจนกว่าจะอยู่ในระดับขาดอย่างรุนแรง ดังนั้น การสังเกตอาการเบื้องต้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

อาการขาดวิตามินบี 2 หรือที่เรียกว่า อาการไรโบเฟลวิโนซิส (Riboflavinosis) นั้นมีหลากหลาย และมักเริ่มต้นด้วยอาการที่สัมพันธ์กับเยื่อบุต่างๆ เช่น:

  • ปากนกกระจอก (Angular Cheilitis): เป็นรอยแยกและแตกที่มุมปาก มักจะมีอาการเจ็บและแสบ เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ที่ขาดวิตามินบี 2 เนื่องจากไรโบเฟลวินมีความสำคัญต่อการรักษาความชุ่มชื้นและสุขภาพของผิวหนังรอบๆ ปาก

  • ริมฝีปากแตกและแห้ง: ริมฝีปากแห้งแตก ลอกเป็นขุย และอาจมีเลือดออกเล็กน้อย เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการขาดไรโบเฟลวิน เนื่องจากวิตามินนี้มีบทบาทสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นของเยื่อบุต่างๆ รวมถึงริมฝีปาก

  • ลิ้นอักเสบ (Glossitis): ลิ้นบวม แดง และอาจมีอาการเจ็บ พื้นผิวของลิ้นอาจมีลักษณะเรียบ หรือมีรอยแตก เนื่องจากไรโบเฟลวินช่วยในการรักษาสุขภาพของเซลล์เยื่อบุในช่องปาก

  • ผิวหนังแห้งและแตก: ไม่เพียงแต่เยื่อบุในช่องปากเท่านั้น ผิวหนังทั่วร่างกายก็อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน อาการที่พบบ่อยคือผิวหนังแห้ง แตก ลอก และอาจมีอาการคัน โดยเฉพาะบริเวณที่สัมผัสกับแสงแดด หรือบริเวณที่มีการเสียดสี

  • ตาแดง (Conjunctivitis): ดวงตาก็เป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบจากการขาดวิตามินบี 2 อาการที่อาจพบได้คือ ตาแดง คัน และอาจมีอาการแสบตา

  • ไวต่อแสง: ผู้ที่ขาดวิตามินบี 2 อาจมีอาการไวต่อแสงแดดมากขึ้น ผิวหนังอาจไหม้แดดได้ง่าย และอาจมีอาการแสบร้อน เมื่อสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน

นอกจากอาการเหล่านี้แล้ว อาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่อาจไม่เฉพาะเจาะจงต่อการขาดวิตามินบี 2 ได้แก่ ความเมื่อยล้า อ่อนเพลีย และปัญหาทางระบบประสาท เช่น อาการชาตามปลายมือปลายเท้า ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างละเอียดจากแพทย์

หากคุณมีอาการใดๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อรับการตรวจวินิจฉัย และรับคำแนะนำในการรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 2 หรือรับประทานวิตามินเสริม เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรง อย่าละเลยอาการเล็กๆ น้อยๆ เพราะมันอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่สำคัญได้

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพได้ หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเสมอ