โรคขาดวิตามิน b2 จะมีอาการอย่างไร

9 การดู

อาการขาดวิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) นอกจากปากนกกระจอก ผิวหนังแห้งแตก และลิ้นอักเสบแล้ว อาจพบอาการตาพร่ามัว ปวดศีรษะเรื้อรัง และมีแผลในปากที่หายยาก ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี การรับประทานอาหารหลากหลายช่วยป้องกันการขาดวิตามินได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภัยเงียบที่มากับ “ไรโบฟลาวิน” ต่ำ: เมื่อร่างกายขาดวิตามิน B2 เกินเยียวยาด้วยตัวเอง

วิตามิน B2 หรือไรโบฟลาวิน ถือเป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย แต่กลับมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบต่าง ๆ มากมาย ไล่ตั้งแต่การเผาผลาญพลังงาน การเจริญเติบโตของเซลล์ ไปจนถึงการมองเห็น

แม้การขาดวิตามิน B2 อย่างรุนแรงจะไม่ค่อยพบได้บ่อยนัก แต่ภาวะ “ไรโบฟลาวิน ต่ำ” หรือการขาดวิตามิน B2 ในระดับเล็กน้อย กลับพบได้บ่อยกว่าที่คิด โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคเกี่ยวกับลำไส้ หรือผู้ที่รับประทานอาหารไม่ครบหมู่

อาการของภาวะไรโบฟลาวินต่ำ อาจเริ่มต้นจากอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หลายคนมองข้าม เช่น

  • ริมฝีปากอักเสบ: ปากแห้ง แตก ลอก เป็นแผล หรือมีอาการคันยุบยิบบริเวณริมฝีปาก มุมปาก หรือลิ้น
  • ผิวหนังแห้งแตก: ผิวหนังบริเวณจมูก คาง และหลังใบหู เป็นขุย แดง และระคายเคืองง่าย
  • ลิ้นอักเสบ: ลิ้นบวม แดง และเป็นมันเงา
  • ตาพร่ามัว: มองเห็นภาพไม่ชัด โดยเฉพาะในที่มืด หรือแสงสว่างน้อย
  • อ่อนเพลียเรื้อรัง: รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีแรง อ่อนเพลียเรื้อรัง

หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ภาวะไรโบฟลาวินต่ำ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว นำไปสู่โรคแทรกซ้อนรุนแรงขึ้นได้ เช่น

  • ระบบประสาทถูกทำลาย: เกิดภาวะโลหิตจาง มีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า
  • ภูมิคุ้มกันต่ำ: ร่างกายติดเชื้อง่าย เจ็บป่วยบ่อย
  • ปัญหาเกี่ยวกับการเจริญเติบโต: ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก โดยเฉพาะความสูงและน้ำหนัก

หลายคนอาจเข้าใจผิด คิดว่าอาการที่เกิดขึ้น เป็นเพียงอาการป่วยทั่วไป แต่หากสังเกตตัวเองแล้วพบว่ามีอาการดังกล่าวข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง และรับการรักษาอย่างถูกวิธี

การดูแลตัวเอง ป้องกันภาวะไรโบฟลาวินต่ำ สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากการเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 2 สูง เช่น

  • นมและผลิตภัณฑ์จากนม: นม โยเกิร์ต ชีส
  • เนื้อสัตว์: ตับ เนื้อวัว ไก่ ปลา
  • ไข่: ไข่ไก่ ไข่เป็ด
  • ธัญพืช: ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท
  • ผักใบเขียว: ผักโขม คะน้า บร็อคโคลี

เพียงเท่านี้ ก็ช่วยลดความเสี่ยง และห่างไกลจากภัยเงียบที่มากับ “ไรโบฟลาวิน” ต่ำ ได้แล้ว