โรคติดต่อที่ต้องแจ้งความมีกี่โรคอะไรบ้าง

21 การดู
ปัจจุบันโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความในประเทศไทยมี 12 โรค ได้แก่ อหิวาตกโรค ไข้เลือดออก ไข้มาลาเรีย โรคคอตีบ โรคบาดทะยัก โรคโปลิโอ โรคหัด โรคหัดเยอรมัน โรคไข้สมองอักเสบเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคฝีดาษ และโรคไข้ทรพิษลิง จำนวนโรคและรายละเอียดอาจมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ จึงควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โรคติดต่ออันตรายที่ต้องแจ้งความให้สาธารณสุขทราบ

โรคติดต่อเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนมาอย่างยาวนาน เนื่องจากมีความรุนแรงและสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความ เนื่องจากเป็นโรคที่มีความเสี่ยงสูงในการแพร่กระจายและก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ในประเทศไทย มีโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบเป็นหลัก จำนวน 12 โรคด้วยกัน

1. อหิวาตกโรค

โรคอหิวาตกโรคเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Vibrio cholerae โดยมักแพร่กระจายผ่านทางน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค ผู้ป่วยจะมีอาการท้องร่วงรุนแรง ถ่ายเหลวเป็นน้ำคล้ายแป้งเปียก มีอาการขาดน้ำ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้

2. ไข้เลือดออก

ไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อและข้อ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน หากมีอาการรุนแรงอาจเกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้

3. ไข้มาลาเรีย

ไข้มาลาเรียเกิดจากเชื้อโปรโตซัว Plasmodium โดยมียุงก้นปล่องเป็นพาหะนำโรค ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงเป็นพักๆ สลับกับอาการหนาวสั่น เหงื่อออก ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น ภาวะโลหิตจางเฉียบพลัน ภาวะไตวาย และเสียชีวิตได้

4. โรคคอตีบ

โรคคอตีบเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Corynebacterium diphtheriae โดยแพร่กระจายผ่านทางละอองฝอยจากการไอหรือจาม ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอ กลืนลำบาก คอแดงและบวม ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต อาจมีเยื่อหนาสีเทาหรือขาวปกคลุมที่คอและทอนซิล หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้

5. โรคบาดทะยัก

โรคบาดทะยักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Clostridium tetani โดยเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผล ผู้ป่วยจะมีอาการเกร็งและกระตุกของกล้ามเนื้อบริเวณกรามและต้นคอ อาการเกร็งของกล้ามเนื้อจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งกลายเป็นอัมพาตและเสียชีวิตได้

6. โรคโปลิโอ

โรคโปลิโอเกิดจากเชื้อไวรัสโปลิโอ โดยแพร่กระจายผ่านทางอุจจาระของผู้ป่วย ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และอ่อนแรง หากเชื้อไวรัสเข้าสู่ระบบประสาทอาจทำให้เกิดอัมพาตของแขน ขา หรือกล้ามเนื้อในการหายใจได้

7. โรคหัด

โรคหัดเกิดจากเชื้อไวรัสหัด โดยแพร่กระจายผ่านทางละอองฝอยจากการไอหรือจาม ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง น้ำมูกไหล ไอ มีผื่นแดงทั่วตัว และตาแดง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น ปอดบวม หูชั้นกลางอักเสบ และสมองอักเสบ

8. โรคหัดเยอรมัน

โรคหัดเยอรมันเกิดจากเชื้อไวรัสหัดเยอรมัน โดยแพร่กระจายผ่านทางละอองฝอยจากการไอหรือจาม ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ต่ำ ปวดหัว คลื่นไส้ ปวดกล้ามเนื้อ และมีผื่นแดงทั่วตัว หากหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อไวรัสหัดเยอรมันในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อทารกในครรภ์ได้

9. โรคไข้สมองอักเสบเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

โรคไข้สมองอักเสบเยื่อหุ้มสมองอักเสบเกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย โดยแพร่กระจายผ่านทางละอองฝอยจากการไอหรือจาม ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดหัวรุนแรง คอแข็ง คลื่นไส้ อาเจียน และซึม หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น ลมชัก สมองบวม และเสียชีวิตได้

10. โรคไข้หวัดใหญ่

โรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยแพร่กระจายผ่านทางละอองฝอยจากการไอหรือจาม ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ไอ มีน้ำมูก ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และอ่อนเพลีย โรคไข้หวัดใหญ่สามารถรุนแรงได้ในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว

11. โรคฝีดาษ

โรคฝีดาษเกิดจากเชื้อไวรัสฝีดาษ โดยแพร่กระจายผ่านทางละอองฝอยหรือการสัมผัสผู้ป่วย ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และมีผื่นแดงทั่วตัว จากนั้นผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนองและแตกออกเป็นสะเก็ด โรคฝีดาษเป็นโรคร้ายแรงมากและสามารถทำให้เสียชีวิตได้

12. โรคไข้ทรพิษลิง

โรคไข้ทรพิษลิงเกิดจากเชื้อไวรัสไข้ทรพิษลิง โดยแพร่กระจายจากสัตว์สู่คน จากคนสู่คน หรือผ่านทางการสัมผัสเลือดหรือของเหลวในร่างกายของผู้ป่วย ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และอ่อนเพลีย จากนั้นจะมีผื่นแดงขึ้นทั่วตัวและกลายเป็นตุ่มหนองหลังจากนั้นตุ่มหนองจะแตกออกและเป็นสะเก็ด หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น ปอดบวม สมองอักเสบ และเสียชีวิตได้

เนื่องจากโรคติดต่ออันตรายเหล่านี้มีความรุนแรงและสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบเมื่อพบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่าย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ประชาชนควรหมั่นรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เช่น การล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่ การสวมหน้ากากอนามัย และการรับวัคซีนป้องกันโรคตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคติดต่ออันตรายเหล่านี้