โรคเอ๋อกับดาวน์ซินโดรมต่างกันยังไง

โรคเอ๋อ กับ ดาวน์ซินโดรม: ความแตกต่างที่สำคัญ

ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความผิดปกติทางการพัฒนาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง บ่อยครั้งที่ผู้คนเข้าใจผิดหรือสับสนระหว่างโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความบกพร่องทางสติปัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่าง “โรคเอ๋อ” ซึ่งเป็นคำที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในอดีต กับ “ดาวน์ซินโดรม” บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสองภาวะนี้ เพื่อให้เข้าใจอย่างชัดเจนและถูกต้อง

โรคเอ๋อ (Intellectual Disability): คำว่า “โรคเอ๋อ” นั้นเป็นคำที่ล้าสมัยและไม่เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ปัจจุบันแล้ว เนื่องจากเป็นคำที่ดูหมิ่นและไม่เคารพต่อผู้ที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ปัจจุบัน คำที่ใช้แทนคือ ภาวะบกพร่องทางสติปัญญา (Intellectual Disability) หรือบางครั้งอาจเรียกว่า ความบกพร่องทางสติปัญญา ภาวะนี้เป็นกลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกับความบกพร่องในการทำงานของสมอง ส่งผลให้มีระดับสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และมีปัญหาในการปรับตัวในด้านต่างๆ ของชีวิตประจำวัน เช่น การเรียนรู้ การทำงาน และการใช้ชีวิตในสังคม

ภาวะบกพร่องทางสติปัญญานั้น มีสาเหตุหลากหลาย อาจเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม การติดเชื้อในขณะตั้งครรภ์ ภาวะขาดออกซิเจนในสมองขณะคลอด การบาดเจ็บที่ศีรษะ ภาวะโภชนาการบกพร่อง หรือแม้แต่ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ เช่น ภาวะพร่องไทรอยด์แต่กำเนิด ดาวน์ซินโดรมถือเป็นเพียงหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะบกพร่องทางสติปัญญาเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมด

ดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome): เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เกิดจากการมีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมาหนึ่งตัว (Trisomy 21) ส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางกายภาพ ลักษณะเฉพาะ เช่น รูปหน้ากลม ตาเล็ก ลิ้นใหญ่ และมือเท้าสั้น นอกจากนี้ยังมีโอกาสสูงที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ ความผิดปกติของทางเดินอาหาร และการมองเห็น และแน่นอน ดาวน์ซินโดรมเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะบกพร่องทางสติปัญญา แต่ระดับความบกพร่องนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

สรุปความแตกต่าง:

การตรวจคัดกรองก่อนคลอด เช่น การตรวจเลือด อัลตราซาวนด์ และการตรวจน้ำคร่ำ มีความสำคัญอย่างยิ่งในการตรวจหาภาวะดาวน์ซินโดรมและภาวะอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อพัฒนาการของทารก การตรวจพบแต่เนิ่นๆ ช่วยให้สามารถเตรียมตัวรับมือและวางแผนการดูแลได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ การให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับภาวะต่างๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งสำคัญต่อการยอมรับและการสร้างสังคมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตของทุกคน ไม่ว่าจะมีความสามารถแตกต่างกันอย่างไรก็ตาม