โรคเอ๋อ ตรวจตอนไหน

โรคเอ๋อ: เส้นทางสู่การตรวจคัดกรองและการวินิจฉัยที่แม่นยำเพื่ออนาคตที่สดใสของลูกน้อย

โรคเอ๋อ หรือ ภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนแต่กำเนิด (Congenital Hypothyroidism) เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ของทารกแรกเกิดทำงานผิดปกติ ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งฮอร์โมนไทรอยด์นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมองและระบบประสาท หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการล่าช้าทั้งทางร่างกายและสติปัญญา รวมถึงมีความบกพร่องทางการได้ยินและการพูด นำไปสู่ภาวะปัญญาอ่อนได้ในที่สุด

การตรวจคัดกรองโรคเอ๋อจึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง โดยทั่วไปการตรวจคัดกรองจะทำกับทารกทุกคนหลังคลอด โดยเก็บตัวอย่างเลือดที่ส้นเท้าของทารก ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือหลังคลอด 48-72 ชั่วโมง หรืออย่างน้อยที่สุด 24 ชั่วโมงหลังเริ่มให้นมแม่ เนื่องจากการให้นมแม่ในช่วงแรกมีผลต่อระดับฮอร์โมนไทรอยด์ ทำให้ผลการตรวจมีความแม่นยำมากขึ้น

การตรวจคัดกรองโรคเอ๋อ จะตรวจหาความผิดปกติของระดับฮอร์โมนไทรอยด์ โดยจะตรวจวัดระดับ TSH (Thyroid Stimulating Hormone) และในบางกรณีอาจตรวจ T4 (Thyroxine) ร่วมด้วย ผลการตรวจมักใช้เวลาประมาณ 10-20 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาล

หากผลการตรวจคัดกรองเบื้องต้นพบความผิดปกติ เจ้าหน้าที่จะติดต่อผู้ปกครองเพื่อแจ้งผลและนัดหมายให้ทารกมาตรวจซ้ำ เพื่อยืนยันผลและประเมินความรุนแรงของโรค การตรวจยืนยันอาจรวมถึงการตรวจเลือดซ้ำ การตรวจเลือดหาแอนติบอดีต่อต้านต่อมไทรอยด์ของมารดา และการตรวจอัลตราซาวด์ต่อมไทรอยด์

ถึงแม้ผลการตรวจคัดกรองเบื้องต้นจะปกติ แต่หากทารกมีอาการที่น่าสงสัย เช่น ตัวเหลืองนาน ท้องผูก ซ้อน ร้องเสียงแหบ ง่วงซึม ไม่ดูดนม พ่อแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เพื่อให้แน่ใจว่าลูกน้อยไม่ได้เป็นโรคเอ๋อ

การวินิจฉัยและการรักษาโรคเอ๋อตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะยิ่งรักษาเร็วเท่าไหร่ โอกาสที่เด็กจะมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ก็ยิ่งสูงขึ้น การรักษาโรคเอ๋อทำได้โดยการให้ฮอร์โมนไทรอยด์สังเคราะห์ทดแทน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง เด็กที่เป็นโรคเอ๋อจะมีพัฒนาการที่ใกล้เคียงกับเด็กปกติ และสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้

อย่าละเลยการตรวจคัดกรองโรคเอ๋อ เพราะการตรวจเพียงครั้งเดียว สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของลูกน้อยได้อย่างมหาศาล