โรคใดเป็นโรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

4 การดู

โรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตเรื้อรัง เกิดจากการที่หลอดเลือดตีบและอุดตัน ส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงอย่างรุนแรงเหล่านี้ ซึ่งมีโอกาสมากกว่าคนปกติอย่างมาก

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โรคเบาหวาน นอกจากจะส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดโดยตรงแล้ว ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้

1. ภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับหลอดเลือดขนาดใหญ่ (Macrovascular complications): เกิดจากการสะสมของคราบไขมันในหลอดเลือดแดงขนาดใหญ่ ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและตีบแคบลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ดังนี้

  • โรคหลอดเลือดหัวใจ: เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ป่วยเบาหวาน คราบไขมันที่สะสมในหลอดเลือดหัวใจจะขัดขวางการไหลเวียนของเลือด ทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก หัวใจขาดเลือด และอาจรุนแรงถึงขั้นหัวใจวายได้
  • โรคหลอดเลือดสมอง: เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดในสมอง ทำให้เนื้อเยื่อสมองขาดเลือดและออกซิเจน ส่งผลให้เกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต และอาจเสียชีวิตได้
  • โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย (Peripheral Artery Disease – PAD): เกิดจากการตีบแคบของหลอดเลือดแดงที่ขาและเท้า ทำให้เกิดอาการปวดขาเมื่อเดิน เป็นแผลเรื้อรังที่หายยาก และในกรณีที่รุนแรงอาจต้องตัดขา

2. ภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับหลอดเลือดขนาดเล็ก (Microvascular complications): เกิดจากความเสียหายของหลอดเลือดฝอยขนาดเล็ก ส่งผลกระทบต่ออวัยวะสำคัญต่างๆ ดังนี้

  • โรคไตเรื้อรัง (Diabetic Nephropathy): เกิดจากความเสียหายของหลอดเลือดฝอยในไต ทำให้ไตทำงานได้น้อยลง และในที่สุดอาจนำไปสู่ภาวะไตวายเรื้อรัง
  • โรคจอประสาทตาเสื่อม (Diabetic Retinopathy): เกิดจากความเสียหายของหลอดเลือดในจอประสาทตา ทำให้มองเห็นภาพพร่ามัว สูญเสียการมองเห็น และอาจนำไปสู่ภาวะตาบอดได้
  • โรคระบบประสาทส่วนปลาย (Diabetic Neuropathy): เกิดจากความเสียหายของเส้นประสาทส่วนปลาย ทำให้เกิดอาการชา ปวดแสบร้อน รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มที่มือและเท้า และอาจส่งผลต่อการทรงตัวและการเคลื่อนไหว

3. ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ:

  • การติดเชื้อ: ผู้ป่วยเบาหวานมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อได้ง่ายขึ้น เช่น การติดเชื้อที่ผิวหนัง การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และการติดเชื้อในกระแสเลือด
  • ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia): เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป ทำให้เกิดอาการวิงเวียน ใจสั่น เหงื่อออก และอาจหมดสติได้
  • ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia): เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป ทำให้เกิดอาการกระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย และในระยะยาวอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมความดันโลหิต ควบคุมระดับไขมันในเลือด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน