ทำไมเบาหวานถึงลงขา

5 การดู

ภาวะแทรกซ้อนของเบาหวานอาจทำให้เกิดการอักเสบของเส้นประสาทในขา (neuropathy) ส่งผลให้เกิดอาการชา ปวด และบวมที่เท้าและขาได้ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเคร่งครัด การออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพเท้าอย่างเหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวได้ ควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติที่เท้าหรือขา

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เบาหวานทำร้ายขา: จากปลายเท้าถึงหัวใจ

เบาหวานไม่ได้ทำร้ายแค่ระดับน้ำตาลในเลือด แต่ยังคืบคลานทำลายสุขภาพเท้าและขาอย่างเงียบเชียบ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมโรคเบาหวานถึง “ลงขา” คำตอบซับซ้อนกว่าที่คิด และเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่างที่ทำงานร่วมกัน ก่อให้เกิดความเสียหายตั้งแต่เส้นประสาทขนาดเล็กไปจนถึงหลอดเลือดแดงใหญ่

เส้นประสาทถูกทำลาย ความรู้สึกหายไป: ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทส่วนปลาย โดยเฉพาะเส้นประสาทที่ขาและเท้า ภาวะนี้เรียกว่า เบาหวานลงประสาท หรือ (Diabetic Neuropathy) เมื่อเส้นประสาทถูกทำลาย ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการชา รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่ม ปวดแสบปวดร้อน หรือแม้กระทั่งสูญเสียความรู้สึกไปเลย อาการเหล่านี้ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวเมื่อเกิดบาดแผล แผลเล็กๆ น้อยๆ อาจลุกลามกลายเป็นแผลเรื้อรัง ติดเชื้อ และร้ายแรงถึงขั้นต้องตัดขาได้

หลอดเลือดอุดตัน เลือดไปเลี้ยงไม่ถึง: นอกจากเส้นประสาท ระดับน้ำตาลในเลือดสูงยังส่งผลเสียต่อหลอดเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัวและหนาขึ้น เกิดภาวะ หลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) เลือดจึงไหลเวียนไปเลี้ยงขาและเท้าได้น้อยลง เมื่อเนื้อเยื่อขาดเลือด แผลจะหายช้า และเสี่ยงต่อการติดเชื้ออย่างรุนแรง ในกรณีที่รุนแรง อาจต้องตัดขาเพื่อป้องกันการลุกลามของการติดเชื้อไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ติดเชื้อง่าย: ผู้ป่วยเบาหวานมักมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ยากขึ้น เมื่อเกิดบาดแผลที่ขาหรือเท้า แม้เพียงเล็กน้อยก็อาจติดเชื้อได้ง่าย และการติดเชื้อสามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เป็นอันตรายอย่างยิ่ง

การดูแลสุขภาพเท้า กุญแจสำคัญในการป้องกัน: การดูแลสุขภาพเท้าอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ควรตรวจสอบเท้าทุกวัน มองหาบาดแผล แผลพุพอง รอยแดง หรืออาการบวม รักษาความสะอาดเท้าให้ดี ตัดเล็บเท้าอย่างระมัดระวัง สวมรองเท้าที่พอดี และหลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่า

การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หัวใจสำคัญของการรักษา: การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ การรับประทานยาตามแพทย์สั่ง การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันและชะลอความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนที่ขา

ภาวะแทรกซ้อนที่ขาจากโรคเบาหวานเป็นเรื่องที่ร้ายแรง แต่สามารถป้องกันได้ หากพบความผิดปกติใดๆ ที่เท้าหรือขา ควรปรึกษาแพทย์ทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้จนสายเกินแก้