โรงพยาบาลศูนย์ในประเทศไทย มีกี่แห่ง

6 การดู

ข้อมูลโรงพยาบาลศูนย์ในประเทศไทย ณ ปี 2564 มีทั้งสิ้น 170 แห่ง ประกอบด้วยโรงพยาบาลศูนย์สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 121 แห่ง และโรงพยาบาลศูนย์สังกัดกรมต่างๆ อีก 49 แห่ง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โรงพยาบาลศูนย์: เสาหลักการแพทย์ไทย 170 แห่ง ยามเข้มแข็งของระบบสาธารณสุข

ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยมีความแข็งแกร่งด้วยโครงสร้างที่เป็นลำดับขั้น โดยโรงพยาบาลศูนย์ถือเป็นเสาหลักสำคัญ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาลระดับสูง ให้บริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมและเชี่ยวชาญ รองรับประชากรในพื้นที่กว้างขวาง และทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างโรงพยาบาลชุมชนกับโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ เช่น โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย

ข้อมูล ณ ปี พ.ศ. 2564 ประเทศไทยมีโรงพยาบาลศูนย์ทั้งหมด 170 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ แบ่งออกเป็นสองสังกัดหลัก คือ

  • สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สปส.) จำนวน 121 แห่ง: กลุ่มนี้เป็นแกนหลักของระบบสาธารณสุข รับผิดชอบการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเน้นการให้บริการที่ครอบคลุม ตั้งแต่การรักษาพยาบาลทั่วไป การส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และการฟื้นฟูสมรรถภาพ โรงพยาบาลเหล่านี้มักมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • สังกัดกรมต่างๆ จำนวน 49 แห่ง: โรงพยาบาลศูนย์กลุ่มนี้สังกัดอยู่ภายใต้กรมต่างๆ ในกระทรวงสาธารณสุข เช่น กรมการแพทย์ กรมสุขภาพจิต กรมควบคุมโรค เป็นต้น ซึ่งแต่ละกรมจะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงทำให้โรงพยาบาลศูนย์เหล่านี้มักจะเน้นการให้บริการเฉพาะทาง หรือมีการพัฒนาศักยภาพด้านการรักษาโรคเฉพาะอย่าง เช่น โรงพยาบาลที่เน้นด้านโรคจิตเวช หรือโรคติดต่อ เป็นต้น

ตัวเลข 170 แห่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของประเทศไทยในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลระดับคุณภาพให้กับประชาชนทั่วประเทศ แม้ว่าจำนวนโรงพยาบาลศูนย์อาจดูมาก แต่การกระจายตัวที่เหมาะสม และการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน ถือเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ระบบสาธารณสุขไทยสามารถรองรับความต้องการด้านสุขภาพของประชากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยต่อไป การติดตามข้อมูลการเพิ่มจำนวน การปรับปรุงคุณภาพ และการกระจายตัวของโรงพยาบาลศูนย์อย่างต่อเนื่อง จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการยกระดับระบบสาธารณสุขของประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้นต่อไป