ใครไม่ควรกินโยเกิร์ต

2 การดู

บุคคลที่มีภาวะลำไส้ไวต่อการกระตุ้น (IBS) บางรายอาจพบว่าโยเกิร์ตทำให้เกิดอาการปวดท้องหรือท้องเสียได้ เนื่องจากโยเกิร์ตมีส่วนประกอบที่กระตุ้นลำไส้ ดังนั้น ผู้ที่มีอาการ IBS ควรสังเกตอาการของตนเองหลังรับประทานโยเกิร์ต และอาจจำเป็นต้องลดปริมาณหรืองดบริโภคหากพบว่ามีผลเสียต่อสุขภาพ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ใครบ้างที่ไม่ควรกินโยเกิร์ต? ถึงแม้จะเป็นอาหารสุขภาพก็มีข้อควรระวัง

โยเกิร์ตขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ อุดมไปด้วยโปรไบโอติกส์ แคลเซียม และสารอาหารอื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถกินโยเกิร์ตได้ บางกลุ่มอาจต้องระมัดระวังในการบริโภค หรือบางรายอาจต้องหลีกเลี่ยงไปเลย มาดูกันว่าใครบ้างที่ควรกินโยเกิร์ตอย่างระมัดระวังหรือควรหลีกเลี่ยง

1. ผู้ที่มีอาการแพ้นมหรือแพ้แลคโตส: โยเกิร์ตทำมาจากนม ดังนั้นผู้ที่แพ้นมวัวหรือแพ้แลคโตส (น้ำตาลในนม) ควรงดบริโภคโยเกิร์ตที่ทำจากนมวัว การรับประทานโยเกิร์ตอาจทำให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง ผื่นคัน หายใจลำบาก สำหรับผู้ที่แพ้แลคโตส อาจลองเลือกโยเกิร์ตปราศจากแลคโตส หรือโยเกิร์ตที่ทำจากนมถั่วเหลือง นมข้าวโอ๊ตหรือนมอัลมอนด์ แต่ควรตรวจสอบส่วนผสมให้แน่ใจก่อนรับประทาน

2. ผู้ที่มีภาวะลำไส้แปรปรวน (IBS) บางราย: แม้ว่าโยเกิร์ตจะมีโปรไบโอติกส์ที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้ แต่ในบางรายที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) โยเกิร์ตอาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย หรือท้องผูกได้ เนื่องจากความไวต่อ FODMAPs (คาร์โบไฮเดรตสายสั้นที่ดูดซึมได้ยาก) ที่มีอยู่ในนมบางชนิด รวมถึงความแตกต่างของจุลินทรีย์ในลำไส้ของแต่ละบุคคล หากคุณมีภาวะ IBS ควรสังเกตอาการของตนเองหลังรับประทานโยเกิร์ต หากพบว่ามีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ และอาจจำเป็นต้องลดปริมาณหรืองดเว้น

3. ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ: สำหรับผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่กำลังเข้ารับเคมีบำบัด ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือผู้ติดเชื้อ HIV ควรระมัดระวังในการรับประทานโยเกิร์ต โดยเฉพาะโยเกิร์ตที่ไม่ได้ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ เนื่องจากอาจมีแบคทีเรียที่เป็นอันตรายปนเปื้อนอยู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานโยเกิร์ต

4. ทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน: ไม่แนะนำให้ทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน ดื่มนมวัวหรือนมชนิดอื่น รวมถึงโยเกิร์ต เนื่องจากระบบย่อยอาหารของทารกยังไม่พัฒนาเต็มที่ และอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้

5. ผู้ที่แพ้ส่วนผสมอื่นๆ ในโยเกิร์ต: นอกจากนมแล้ว โยเกิร์ตบางชนิดอาจมีส่วนผสมอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ เช่น ผลไม้ ถั่ว สารให้ความหวาน สีผสมอาหาร และกลิ่นสังเคราะห์ ผู้ที่มีประวัติแพ้อาหารควรอ่านฉลากส่วนผสมของโยเกิร์ตให้ละเอียดก่อนรับประทานทุกครั้ง

ถึงแม้โยเกิร์ตจะเป็นอาหารที่มีประโยชน์ แต่ก็ควรเลือกรับประทานอย่างเหมาะสม และหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการบริโภคโยเกิร์ต ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อขอคำแนะนำ