ไตวายเฉียบพลันมีอาการยังไง

7 การดู

ไตวายเฉียบพลันอาจเริ่มด้วยอาการปวดหลังอย่างรุนแรงร่วมกับปัสสาวะเปลี่ยนสีเข้มหรือมีเลือดปน ต่อมาอาจมีอาการบวมที่ใบหน้าและขา รู้สึกเหนื่อยล้าผิดปกติ คลื่นไส้ และหายใจลำบาก หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไตวายเฉียบพลัน: สัญญาณเตือนภัยที่ไม่ควรมองข้าม

ไตวายเฉียบพลัน เป็นภาวะที่การทำงานของไตหยุดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดของเสียและของเหลวส่วนเกินออกไปได้ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการแทรกซ้อนที่ร้ายแรงถึงชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การรู้เท่าทันสัญญาณเตือนภัยของไตวายเฉียบพลันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

อาการของไตวายเฉียบพลันมีความหลากหลายและอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของภาวะ บางรายอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย ในขณะที่บางรายอาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นวิกฤต โดยทั่วไป สัญญาณเตือนภัยที่บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของไตวายเฉียบพลัน ได้แก่:

  • การเปลี่ยนแปลงของปัสสาวะ: ปริมาณปัสสาวะลดลงอย่างมาก หรือปัสสาวะไม่ออกเลย ปัสสาวะมีสีเข้มผิดปกติ มีเลือดปน หรือมีฟองมาก
  • อาการบวม: บวมที่ขา เท้า ข้อเท้า และใบหน้า เนื่องจากร่างกายไม่สามารถกำจัดของเหลวส่วนเกินออกไปได้
  • ความเหนื่อยล้าอย่างรุนแรง: รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง และง่วงซึมตลอดเวลา แม้จะพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ตาม
  • อาการคลื่นไส้ อาเจียน: เป็นผลมาจากการสะสมของเสียในร่างกาย
  • หายใจลำบาก: เกิดจากการสะสมของของเหลวในปอด
  • ปวดบริเวณหลังส่วนล่างหรือสีข้าง: อาจเป็นอาการปวดตื้อๆ หรือปวดแบบเฉียบพลัน บางรายอาจมีอาการปวดร้าวไปยังขาหนีบ
  • สับสน มึนงง: เกิดจากการเสียสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย
  • ความดันโลหิตสูงหรือต่ำผิดปกติ: เป็นอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้ไม่ได้บ่งชี้ว่าเป็นไตวายเฉียบพลันเสมอไป อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้เช่นกัน ดังนั้น หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และตรวจปัสสาวะ เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและหาสาเหตุของไตวายเฉียบพลัน การรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและเพิ่มโอกาสในการฟื้นฟูการทำงานของไตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่านิ่งนอนใจหากคุณสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดอาจมีอาการของไตวายเฉียบพลัน การพบแพทย์อย่างรวดเร็วคือกุญแจสำคัญในการรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต.