โรค ไต วาย เฉียบพลัน มี กี่ ระยะ

โรคไตวายเฉียบพลันแตกต่างจากโรคไตวายเรื้อรัง ไม่ได้แบ่งระยะตามค่า GFR แต่แบ่งตามการทำงานของไต และปริมาณของปัสสาวะที่ขับออกมา ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 4 ระยะ ดังนี้

1. ระยะเริ่มต้น (Initiation Phase): ระยะนี้เป็นช่วงที่ไตเริ่มได้รับความเสียหายจากสาจิต่างๆ เช่น การติดเชื้อรุนแรง อุบัติเหตุ การเสียเลือดมาก การใช้ยาบางชนิด หรือภาวะช็อก ในระยะนี้ อาจยังไม่มีอาการแสดงออกชัดเจน หรืออาจมีอาการเล็กน้อย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย และปริมาณปัสสาวะอาจลดลงเล็กน้อย ระยะนี้เป็นระยะสำคัญในการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันความเสียหายที่รุนแรงขึ้น

2. ระยะปัสสาวะน้อย (Oliguric Phase): ระยะนี้เป็นระยะที่การทำงานของไตบกพร่องอย่างชัดเจน มีปริมาณปัสสาวะลดลงอย่างมาก ต่ำกว่า 400 มิลลิลิตรต่อวัน หรืออาจไม่มีปัสสาวะเลย เกิดของเสียคั่งในร่างกาย เช่น ยูเรีย ครีอะตินิน ทำให้เกิดอาการบวมน้ำ ความดันโลหิตสูง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร และอาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ระยะนี้อาจกินเวลานานหลายวันถึงหลายสัปดาห์

3. ระยะปัสสาวะมาก (Diuretic Phase): ระยะนี้การทำงานของไตเริ่มฟื้นตัว ปริมาณปัสสาวะจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น แต่ไตยังไม่สามารถกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยยังคงต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการสูญเสีย electrolytes เช่น โซเดียม โพแทสเซียม และภาวะขาดน้ำ

4. ระยะฟื้นตัว (Recovery Phase): ระยะนี้การทำงานของไตจะค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ ปริมาณปัสสาวะและค่าของเสียในเลือดจะกลับสู่ระดับปกติ ระยะเวลาในการฟื้นตัวแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและการตอบสนองต่อการรักษา บางรายอาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าไตจะฟื้นตัวเต็มที่ และบางรายอาจมีภาวะไตวายเรื้อรังตามมาได้

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าข้อมูลนี้มีไว้เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ได้ หากสงสัยว่าตนเองหรือผู้อื่นมีอาการของโรคไตวายเฉียบพลัน ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง