ไทรอยด์ห้ามทานอะไร

2 การดู

ควรหลีกเลี่ยงทานกะหล่ำปลี, กะหล่ำดอก, และผักกาดเขียวเข้ม หากมีภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ เนื่องจากสารโกไทรินเจนในผักเหล่านี้ อาจรบกวนการดูดซึมยาไทรอยด์ แต่สำหรับผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานอาหารที่มีไอโอดีนสูง เช่นสาหร่ายทะเล เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อาหารต้องห้าม…จริงหรือ? ไขข้อสงสัยเรื่องอาหารกับโรคไทรอยด์

เมื่อพูดถึงโรคไทรอยด์ สิ่งที่มักจะตามมาคือข้อจำกัดเรื่องอาหารมากมาย จนหลายคนเกิดความสับสนว่าอะไรทานได้ อะไรทานไม่ได้กันแน่ บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยและให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยไทรอยด์ โดยเน้นไปที่หลักการและเหตุผล เพื่อให้คุณสามารถเลือกทานอาหารได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย

ทำความเข้าใจก่อน: ไทรอยด์ทำงานผิดปกติมีกี่แบบ?

ก่อนที่จะเจาะลึกเรื่องอาหาร เราต้องเข้าใจก่อนว่าโรคไทรอยด์ไม่ได้มีแค่แบบเดียว หลักๆ แล้วแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

  • ไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism): ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนได้น้อยเกินไป ทำให้ร่างกายทำงานช้าลง
  • ไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism): ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป ทำให้ร่างกายทำงานเร็วเกินไป

การจัดการเรื่องอาหารสำหรับผู้ป่วยแต่ละประเภทจะแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนั้น การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ผู้ป่วยไทรอยด์ทำงานต่ำ: ระวัง “โกโตรเจน”

สำหรับผู้ป่วยไทรอยด์ทำงานต่ำ สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือสารที่เรียกว่า “โกโตรเจน” (Goitrogens) สารนี้พบได้ในผักบางชนิด โดยเฉพาะผักตระกูลกะหล่ำ เช่น:

  • กะหล่ำปลี
  • กะหล่ำดอก
  • ผักกาดเขียว
  • บรอกโคลี
  • เคล

ทำไมต้องระวังโกโตรเจน?

โกโตรเจนสามารถรบกวนการทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยเฉพาะการดูดซึมยาไทรอยด์ (Levothyroxine) ที่ใช้รักษาภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ ทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่

แต่…อย่าเพิ่งตกใจ!

ไม่ใช่ว่าผู้ป่วยไทรอยด์ทำงานต่ำจะต้องเลิกทานผักเหล่านี้ไปตลอดชีวิต การปรุงสุกด้วยความร้อนสูง เช่น การต้ม การนึ่ง หรือการผัด จะช่วยลดปริมาณโกโตรเจนลงได้มาก ดังนั้น คุณยังสามารถทานผักเหล่านี้ได้ในปริมาณที่พอเหมาะ โดยคำนึงถึงวิธีการปรุงสุก

สิ่งที่ควรทำ:

  • ปรึกษาแพทย์: แจ้งแพทย์เกี่ยวกับอาหารที่คุณทานเป็นประจำ เพื่อให้แพทย์ปรับขนาดยาให้เหมาะสม
  • ปรุงสุกเสมอ: หลีกเลี่ยงการทานผักตระกูลกะหล่ำแบบดิบๆ
  • หลากหลาย: ทานผักและผลไม้ให้หลากหลายชนิด เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน
  • สังเกตอาการ: สังเกตอาการของตัวเองหลังจากทานอาหาร หากรู้สึกผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์

ผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษ: ไอโอดีนต้องระวัง

สำหรับผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษ สิ่งที่ต้องระวังคืออาหารที่มี ไอโอดีน สูง เนื่องจากไอโอดีนเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ การได้รับไอโอดีนมากเกินไป อาจกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากยิ่งขึ้น ทำให้อาการของโรคแย่ลงได้

อาหารที่มีไอโอดีนสูงที่ควรระวัง:

  • สาหร่ายทะเลทุกชนิด (เช่น โนริ วากาเมะ คอมบุ)
  • อาหารทะเลบางชนิด (เช่น ปลาทะเลน้ำลึก กุ้ง หอย)
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีไอโอดีน
  • เกลือเสริมไอโอดีน (ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ)

สิ่งที่ควรทำ:

  • ปรึกษาแพทย์: ขอคำแนะนำจากแพทย์เกี่ยวกับปริมาณไอโอดีนที่เหมาะสมสำหรับคุณ
  • อ่านฉลาก: ตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและอาหารแปรรูปอย่างละเอียด
  • หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป: อาหารแปรรูปมักมีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งอาจมีไอโอดีนเป็นส่วนประกอบ

สรุป:

การจัดการเรื่องอาหารสำหรับผู้ป่วยไทรอยด์เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและต้องอาศัยความเข้าใจในตัวโรคและอาหารแต่ละชนิด การปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้คุณได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าอาหารชนิดใดทานไม่ได้ เพราะการทานอาหารที่หลากหลายและสมดุลยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลสุขภาพโดยรวม

Disclaimer: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเพื่อใช้ในการวินิจฉัยหรือรักษาโรค หากคุณมีข้อสงสัยหรือข้อกังวลใดๆ เกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ