CPR คืออะไร มีกี่ขั้นตอน

5 การดู

CPR ช่วยชีวิตฉุกเฉินเมื่อหัวใจหยุดเต้น ประกอบด้วยการเปิดทางเดินหายใจ, การช่วยหายใจ และการนวดหัวใจ เรียนรู้ CPR เพื่อช่วยเหลือคนรอบข้างในยามคับขัน การฝึกฝนอย่างถูกต้องสำคัญที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิต

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

CPR: กู้ชีพฉุกเฉินด้วยสองมือและลมหายใจแห่งความหวัง

เมื่อชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ทุกวินาทีมีค่าอย่างยิ่ง การทำ CPR (Cardiopulmonary Resuscitation) หรือการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน คือทักษะที่ทุกคนควรมี เพราะสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างความเป็นและความตายให้กับผู้ที่หัวใจหยุดเต้นกะทันหันได้

CPR คืออะไร?

CPR ไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นชุดของการปฏิบัติการที่ช่วยประคับประคองการทำงานของหัวใจและปอด เมื่อบุคคลนั้นหยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น การทำ CPR จะช่วยให้เลือดที่มีออกซิเจนไหลเวียนไปยังสมองและอวัยวะสำคัญอื่นๆ จนกว่าทีมแพทย์จะมาถึงและให้การช่วยเหลือขั้นสูงต่อไป การทำ CPR ที่ถูกต้องและทันท่วงที สามารถเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมีนัยสำคัญ และลดความเสี่ยงของความเสียหายต่อสมอง

CPR มีกี่ขั้นตอน?

CPR ประกอบด้วยขั้นตอนหลักๆ ที่เรียงร้อยกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเราสามารถจดจำง่ายๆ ด้วยหลักการ “CAB”

  • C – Circulation (การนวดหัวใจ): เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำ CPR หากหัวใจหยุดเต้น เลือดจะไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงสมองและอวัยวะต่างๆ ได้ การนวดหัวใจอย่างถูกต้องจะช่วยบีบอัดหัวใจ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ชั่วคราว

    • วิธีการ: วางส้นมือข้างหนึ่งบนกึ่งกลางหน้าอก (บริเวณกระดูกหน้าอกส่วนล่าง) วางมืออีกข้างทับลงไป ประสานนิ้วมือเข้าด้วยกัน
    • ตำแหน่ง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าวางมือในตำแหน่งที่ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงการกดลงบนกระดูกซี่โครงหรือบริเวณอื่นที่ไม่เหมาะสม
    • ความลึก: กดหน้าอกลงไปประมาณ 5-6 เซนติเมตร (2-2.4 นิ้ว) ในผู้ใหญ่
    • ความเร็ว: นวดหัวใจด้วยความเร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที
    • จังหวะ: ปล่อยให้หน้าอกคลายตัวเต็มที่หลังจากการกดแต่ละครั้ง เพื่อให้เลือดไหลกลับเข้าสู่หัวใจ
  • A – Airway (การเปิดทางเดินหายใจ): เมื่อหมดสติ กล้ามเนื้อคอจะคลายตัว ทำให้ลิ้นอาจตกลงไปอุดกั้นทางเดินหายใจได้ การเปิดทางเดินหายใจจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้ลมหายใจสามารถเข้าไปในปอดได้

    • วิธีการ: ใช้มือข้างหนึ่งกดหน้าผากลง และใช้นิ้วสองนิ้วของอีกข้างเชยคางขึ้น เพื่อยกคางขึ้นและเปิดทางเดินหายใจ
    • กรณีที่สงสัยว่ามีการบาดเจ็บบริเวณคอหรือหลัง: ให้ใช้วิธี “Jaw-Thrust” แทน โดยใช้มือทั้งสองข้างจับบริเวณมุมกราม แล้วดันกรามขึ้นด้านบน โดยไม่ต้องเงยศีรษะ
  • B – Breathing (การช่วยหายใจ): หากผู้ป่วยไม่หายใจ หรือหายใจเฮือก ให้ทำการช่วยหายใจ เพื่อส่งออกซิเจนเข้าสู่ปอด

    • วิธีการ: หลังจากเปิดทางเดินหายใจแล้ว ให้บีบจมูกของผู้ป่วยให้สนิท และประกบปากของคุณกับปากของผู้ป่วยให้มิดชิด
    • การเป่าปาก: เป่าลมหายใจเข้าไป 1 วินาที สังเกตว่าหน้าอกของผู้ป่วยขยับขึ้นหรือไม่
    • อัตราส่วน: ให้ทำการนวดหัวใจ 30 ครั้ง สลับกับการช่วยหายใจ 2 ครั้ง (30:2)
    • ข้อควรระวัง: หากคุณไม่สบายใจที่จะทำการช่วยหายใจ สามารถเลือกที่จะทำการนวดหัวใจอย่างต่อเนื่องได้ (hands-only CPR)

สิ่งที่ต้องจำ:

  • โทรแจ้ง 1669: ก่อนเริ่มทำการ CPR ให้โทรแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน (1669) หรือให้คนอื่นโทรแทน เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์โดยเร็วที่สุด
  • ทำต่อไปจนกว่า: ให้ทำการ CPR ต่อเนื่องจนกว่าทีมแพทย์จะมาถึง หรือจนกว่าผู้ป่วยจะเริ่มหายใจได้เอง
  • อย่ากลัวที่จะทำ: การทำ CPR อาจดูน่ากลัว แต่การลงมือทำ ดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย ความพยายามของคุณอาจช่วยชีวิตคนได้

การฝึกฝนอย่างถูกต้องคือหัวใจสำคัญ:

การเรียนรู้และฝึกฝนการทำ CPR อย่างถูกต้องกับผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสถาบันและองค์กรมากมายที่เปิดสอนหลักสูตร CPR ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจขั้นตอนต่างๆ อย่างละเอียด และฝึกปฏิบัติจริงกับหุ่นจำลอง

สรุป:

CPR เป็นทักษะที่สำคัญและสามารถเรียนรู้ได้ง่าย การมีความรู้เรื่อง CPR จะช่วยให้คุณพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ฉุกเฉิน และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่ปลอดภัยและพร้อมที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จงจำไว้ว่า ทุกวินาทีมีค่า และการลงมือทำ CPR อาจเป็นโอกาสเดียวที่ช่วยชีวิตใครสักคนได้