Dyshidrotic eczema ใช้ยาอะไร

7 การดู

สำหรับการรักษารอยโรคผิวหนังจากโรคภูมิแพ้ผิวหนังแบบ Dyshidrotic eczema แพทย์อาจพิจารณาใช้ครีมหรือยาทาเฉพาะที่ที่มีส่วนผสมของคอร์ติโคสเตียรอยด์ เช่น โมเมตาโซน เพื่อลดการอักเสบและอาการคัน ควบคู่กับการใช้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาแก้คัน เพื่อบรรเทาอาการไม่สบาย ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและแผนการรักษาที่เหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังชนิด Dyshidrotic eczema หรือที่รู้จักกันในชื่อ pompholyx เป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่แสดงอาการเป็นตุ่มน้ำใสขนาดเล็ก มักเกิดขึ้นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และด้านข้างของนิ้วมือหรือนิ้วเท้า สร้างความรู้สึกคัน แสบร้อน และเจ็บปวดได้ การรักษาโรค Dyshidrotic eczema มีหลายวิธีขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยเน้นที่การควบคุมอาการและป้องกันการกำเริบของโรค

การใช้ยา:

  • ยาทาคอร์ติโคสเตียรอยด์: เป็นยาที่ใช้กันบ่อยที่สุดในการรักษา มีฤทธิ์ลดการอักเสบและอาการคัน เช่น ครีมหรือขี้ผึ้งที่มีส่วนผสมของโมเมตาโซน เบตาเมธาโซน หรือไฮโดรคอร์ติโซน ความแรงของยาจะขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ การใช้ยาทาคอร์ติโคสเตียรอยด์อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ผิวหนังบางลงได้ จึงควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์
  • ยาทาต้านการอักเสบชนิด Calcineurin inhibitors: เช่น ทาโครลิมัส (Tacrolimus) และพิเมโครลิมัส (Pimecrolimus) เป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยาทาคอร์ติโคสเตียรอยด์ หรือผู้ที่มีผิวบาง ยานี้มีฤทธิ์ลดการอักเสบเฉพาะที่โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงจากสเตียรอยด์
  • การประคบเย็น: ช่วยลดอาการคันและอักเสบ สามารถใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็นประคบบริเวณที่เป็นผื่น
  • ยาแก้คันชนิดรับประทาน: ในกรณีที่มีอาการคันรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาแก้คันชนิดรับประทาน เช่น ยาแก้แพ้กลุ่ม Antihistamine
  • การฉีด Botulinum toxin: ในบางกรณี การฉีด Botulinum toxin อาจช่วยลดการขับเหงื่อ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดผื่น แต่การรักษานี้ยังไม่ได้รับการรับรองอย่างกว้างขวาง
  • การรักษาด้วยแสง (Phototherapy): เช่น PUVA therapy อาจใช้ในกรณีที่โรคมีความรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบอื่น อย่างไรก็ตาม การรักษานี้ต้องทำโดยแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ

นอกเหนือจากการใช้ยา การดูแลตนเองก็เป็นสิ่งสำคัญ:

  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น: เช่น สบู่ น้ำหอม สารเคมี โลหะ และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ
  • รักษาความชุ่มชื้นให้ผิว: ใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่มีน้ำหอมและสารกันเสีย เพื่อป้องกันผิวแห้ง
  • จัดการความเครียด: เนื่องจากความเครียดอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้โรคกำเริบ การฝึกจัดการความเครียด เช่น การทำโยคะ การนั่งสมาธิ อาจช่วยบรรเทาอาการได้

สำคัญ: ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ การรักษาด้วยตนเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือทำให้โรคแย่ลงได้