G6PD กินโยเกิร์ตได้ไหม

8 การดู

การกินโยเกิร์ตในผู้ป่วย G6PD ขึ้นอยู่กับส่วนผสม โยเกิร์ตบางชนิดอาจมีสารที่ทำให้เกิดปัญหา หากสงสัยควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อประเมินความปลอดภัย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โยเกิร์ตกับผู้ป่วย G6PD: ความจริงที่ต้องรู้ก่อนทาน

โรคจีซิกซ์พีดี (G6PD) หรือภาวะเอนไซม์กลูโคส-6-ฟอสเฟตดีไฮโดรจีเนสพร่อง เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลให้เม็ดเลือดแดงเสื่อมสภาพง่ายกว่าปกติ ผู้ป่วย G6PD จึงจำเป็นต้องระมัดระวังในการรับประทานอาหารและยาบางชนิด เพื่อป้องกันภาวะโลหิตจางจากการแตกของเม็ดเลือดแดง (hemolytic anemia) คำถามที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆ คือ ผู้ป่วย G6PD สามารถรับประทานโยเกิร์ตได้หรือไม่?

คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับชนิดและส่วนผสมของโยเกิร์ต โยเกิร์ตโดยทั่วไปทำจากนม ซึ่งโดยตัวมันเองไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วย G6PD อย่างไรก็ตาม หลายผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตมีการเติมสารต่างๆ ลงไป ซึ่งสารเหล่านี้บางชนิดอาจเป็นอันตรายได้ ตัวอย่างเช่น:

  • สารกันบูดบางชนิด: สารกันบูดบางประเภท เช่น สารประกอบไนเตรต หรือไนไทรต์ อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะโลหิตจางในผู้ป่วย G6PD ได้ ดังนั้น ควรตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด และเลือกโยเกิร์ตที่ไม่มีสารเหล่านี้ หรือมีปริมาณน้อยที่สุด
  • สารแต่งสีและแต่งกลิ่น: สารเหล่านี้บางชนิดอาจเป็นสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาในผู้ป่วย G6PD แม้ว่าจะไม่ใช่สารอันตรายโดยตรง แต่ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคโยเกิร์ตที่มีสารแต่งสีและแต่งกลิ่นมากเกินไป
  • ผลไม้บางชนิด: โยเกิร์ตบางชนิดอาจมีการเติมผลไม้ และผลไม้บางชนิด เช่น ถั่วบางชนิด อาจมีสารที่กระตุ้นให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ ผู้ป่วยควรระวังและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมของผลไม้ที่เติมในโยเกิร์ตแต่ละยี่ห้อ

การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การตรวจสอบฉลากอย่างละเอียด เลือกโยเกิร์ตที่ทำจากนมธรรมชาติ มีส่วนผสมน้อย และไม่มีสารกันบูด สารแต่งสี หรือสารแต่งกลิ่นที่อาจเป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม แม้จะเลือกโยเกิร์ตที่ดูปลอดภัยแล้ว แต่หากมีอาการผิดปกติเช่น ซีด อ่อนเพลีย ปัสสาวะสีเข้ม หรือมีอาการอื่นๆ ที่น่าสงสัย ควรไปพบแพทย์หรือเภสัชกรทันที เพื่อประเมินอาการและรับคำแนะนำที่เหมาะสม

สรุป: การทานโยเกิร์ตสำหรับผู้ป่วย G6PD ไม่ได้ห้ามเด็ดขาด แต่ต้องระมัดระวังในเรื่องส่วนผสม การเลือกโยเกิร์ตที่มีส่วนผสมน้อยและเป็นธรรมชาติที่สุดจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และที่สำคัญคือ การปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล