Rhonchi กับ crepitation ต่างกันยังไง

เสียงรอนคี (Rhonchi) และเสียงเครปิเทชัน (Crepitation): ความแตกต่างที่สำคัญ

เสียงผิดปกติของระบบทางเดินหายใจเป็นเครื่องมือสำคัญในการวินิจฉัยโรคปอดและภาวะทางการแพทย์อื่นๆ สองเสียงผิดปกติที่พบได้บ่อย ได้แก่ เสียงรอนคีและเสียงเครปิเทชัน ซึ่งแม้ว่าจะมีลักษณะคล้ายกัน แต่ก็มีสาเหตุและความหมายทางคลินิกที่แตกต่างกัน

เสียงรอนคี (Rhonchi)

• เป็นเสียงหวีดหรือเสียงฮัมที่มีความถี่ต่ำ
• เกิดจากการอุดตันของทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หลอดลมหรือหลอดลมฝอย โดยเสมหะหรือของเหลว
• เสียงรอนคีสามารถได้ยินได้ทั้งเมื่อหายใจเข้าและหายใจออก
• มักพบในผู้ที่มีโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคหอบหืด หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)

เสียงเครปิเทชัน (Crepitation)

• เป็นเสียงแตกเปาะๆ หรือเสียงกรอบแกรบที่มีความถี่สูง
• เกิดจากการเปิดและปิดของถุงลมเล็กๆ ในปอดที่เต็มไปด้วยของเหลว
• เสียงเครปิเทชันได้ยินได้เฉพาะเมื่อหายใจเข้าเท่านั้น
• มักพบในผู้ที่มีปอดบวมหรือภาวะหัวใจล้มเหลว

การแยกแยะเสียงรอนคีและเสียงเครปิเทชัน

แพทย์จะใช้ทั้งการตรวจร่างกายและการฟังปอดด้วยหูฟังเพื่อแยกแยะระหว่างเสียงรอนคีและเสียงเครปิเทชัน ปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการแยกแยะ ได้แก่

• เวลา: เสียงเครปิเทชันได้ยินได้เฉพาะเมื่อหายใจเข้า ขณะที่เสียงรอนคีได้ยินได้ทั้งเมื่อหายใจเข้าและหายใจออก
• ตำแหน่ง: เสียงเครปิเทชันมักได้ยินที่ฐานปอด ขณะที่เสียงรอนคีอาจได้ยินได้ทั่วทั้งปอด
• ลักษณะเสียง: เสียงเครปิเทชันมีเสียงแหลมและแตกเปาะๆ ในขณะที่เสียงรอนคีมีเสียงต่ำและเป็นเสียงฮัม

ความสำคัญทางคลินิก

การแยกแยะระหว่างเสียงรอนคีและเสียงเครปิเทชันช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคทางเดินหายใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น

• เสียงรอนคีบ่งชี้ถึงการมีเสมหะหรือของเหลวในทางเดินหายใจส่วนบน
• เสียงเครปิเทชันบ่งชี้ถึงการมีของเหลวในถุงลมปอด

การวินิจฉัยที่แม่นยำนำไปสู่การรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ