Spondyloarthritis คือโรคอะไร

1 การดู

โรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่มีการอักเสบเรื้อรังของข้อต่อกระดูกสันหลังและข้อต่ออื่นๆ มักพบอาการปวดหลังเรื้อรัง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และอาจมีอาการตาแดง ผิวหนังอักเสบ หรือโรคเกี่ยวกับลำไส้ร่วมด้วย การรักษาเน้นบรรเทาอาการและชะลอความเสื่อมของข้อ โดยแพทย์จะพิจารณาจากอาการและผลการตรวจต่างๆ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สปอนไดโลอาร์ไธริติส (Spondyloarthritis): เมื่อกระดูกสันหลังและข้อต่ออักเสบเรื้อรัง

สปอนไดโลอาร์ไธริติส (Spondyloarthritis หรือ SpA) คือกลุ่มโรคข้ออักเสบเรื้อรังที่มีลักษณะร่วมกันคือ การอักเสบของข้อต่อกระดูกสันหลัง และอาจลุกลามไปยังข้อต่ออื่นๆ แตกต่างจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) ที่มักเกิดการอักเสบแบบสมมาตรทั้งสองข้างของร่างกาย SpA มักแสดงอาการแบบไม่สมมาตร และมีความเกี่ยวข้องกับการอักเสบของเนื้อเยื่ออื่นๆ นอกเหนือจากข้อต่อ เช่น ตา ผิวหนัง และลำไส้

อาการสำคัญของ SpA:

อาการของ SpA นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและขึ้นอยู่กับข้อต่อที่ได้รับผลกระทบ อาการที่พบบ่อย ได้แก่:

  • ปวดหลังเรื้อรัง: เป็นอาการหลักและเด่นชัดที่สุด มักเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปวดบริเวณก้นกบและสะโพก อาจรุนแรงขึ้นในตอนเช้าหรือหลังจากพักนานๆ และบรรเทาลงหลังจากเคลื่อนไหวร่างกาย
  • ความแข็งเกร็งของข้อต่อ: รู้สึกตึงและแข็งเกร็งบริเวณกระดูกสันหลังและข้อต่ออื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้า
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ: อาจมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อทั่วไป ไม่จำเพาะเจาะจง
  • อาการอักเสบของตา: เช่น ตาแดง ตาบวม หรือมีน้ำตาไหลมาก อาจเป็นโรค uveitis ซึ่งเป็นการอักเสบของส่วนต่างๆ ของดวงตา
  • โรคผิวหนัง: บางรายอาจมีผื่นผิวหนัง เช่น ผื่น psoriasis (สะเก็ดเงิน) หรือผื่นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ
  • โรคเกี่ยวกับลำไส้: เช่น โรคกระเพาะลำไส้อักเสบ (Inflammatory bowel disease) เช่น โรค Crohn’s disease หรือ โรค ulcerative colitis

สาเหตุของ SpA:

สาเหตุที่แท้จริงของ SpA ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางพันธุกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งยีน HLA-B27 นอกจากนี้ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมก็อาจมีส่วนร่วมด้วย

การวินิจฉัย SpA:

การวินิจฉัย SpA อาศัยการประเมินอาการ ประวัติทางการแพทย์ และการตรวจร่างกาย แพทย์อาจพิจารณาทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น:

  • การตรวจเลือด: เพื่อตรวจหาการอักเสบ และตรวจหา markers ที่บ่งชี้โรค SpA
  • การเอกซเรย์: เพื่อตรวจดูความผิดปกติของกระดูกสันหลังและข้อต่อ
  • การ MRI: เพื่อแสดงภาพการอักเสบของเนื้อเยื่ออ่อนได้ละเอียดกว่าเอกซเรย์
  • การอัลตราซาวด์: เพื่อตรวจหาการอักเสบของข้อต่อ

การรักษา SpA:

การรักษา SpA เน้นไปที่การบรรเทาอาการ ชะลอความเสื่อมของข้อ และปรับปรุงคุณภาพชีวิต การรักษาอาจรวมถึง:

  • ยาต้านการอักเสบ nonsteroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs): เพื่อลดอาการปวดและการอักเสบ
  • ยา DMARDs (disease-modifying antirheumatic drugs): เพื่อชะลอความก้าวหน้าของโรค เช่น ยา sulfasalazine methotrexate
  • ยาชีววิทยา (biologic agents): ใช้ในกรณีที่โรคไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาอื่นๆ
  • กายภาพบำบัด: เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ปรับปรุงความยืดหยุ่น และลดอาการปวด
  • การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต: เช่น การควบคุมน้ำหนัก การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ

SpA เป็นโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคข้ออักเสบเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม การรักษาอย่างทันท่วงทีและการดูแลตนเองอย่างถูกวิธี จะช่วยควบคุมอาการ ชะลอความเสื่อมของข้อ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ