ถั่วแระญี่ปุ่นกับถั่วแระไทยต่างกันอย่างไร

ถั่วแระญี่ปุ่นกับถั่วแระไทย: ความแตกต่างที่มากกว่าแค่ชื่อ

ถั่วแระ…เพียงแค่ชื่อนี้ก็อาจทำให้หลายคนนึกถึงเมนูอาหารจานโปรด ทั้งแกงเลียงยอดมะพร้าวใส่ถั่วแระ หรือจะเป็นถั่วแระญี่ปุ่นผัดเนยกระเทียม แต่รู้หรือไม่ว่า “ถั่วแระ” ที่เราคุ้นเคยกันนั้น แท้จริงแล้วมีความแตกต่างกันอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะระหว่าง “ถั่วแระญี่ปุ่น” กับ “ถั่วแระไทย” ซึ่งแม้จะดูคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า “ถั่วแระ” ที่เราพูดถึงกันนั้น โดยทั่วไปหมายถึง ฝักอ่อนของถั่วเหลือง แต่ความแตกต่างเกิดจากการคัดเลือกสายพันธุ์และการเพาะปลูก ถั่วเหลืองที่นำมาเป็นถั่วแระนั้น มีการพัฒนาสายพันธุ์มาหลายยุคหลายสมัย เพื่อให้ได้ฝักที่มีคุณลักษณะแตกต่างกันไปตามความต้องการของตลาด และนี่เองที่ทำให้ถั่วแระญี่ปุ่นและถั่วแระไทยมีเอกลักษณ์ที่เป็นของตัวเอง

ถั่วแระญี่ปุ่น: เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของรสชาติที่หวาน กรอบ และมีเนื้อฝักที่อ่อนนุ่ม ความหวานนี้เกิดจากการคัดเลือกสายพันธุ์เฉพาะ ที่ถูกพัฒนาให้มีปริมาณน้ำตาลสูง และฝักมีขนาดใหญ่กว่าถั่วเหลืองทั่วไป เมล็ดภายในฝักก็มีขนาดใหญ่กว่าเช่นกัน โดยปกติแล้ว ถั่วแระญี่ปุ่นจะถูกปลูกและเก็บเกี่ยวเพื่อบริโภคในสภาพฝักสด เน้นรสชาติและความกรอบเป็นหลัก จึงไม่ค่อยถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ มากนัก

ถั่วแระไทย: แตกต่างจากถั่วแระญี่ปุ่นตรงที่อาจมีความหลากหลายของสายพันธุ์มากกว่า เนื่องจากการปลูกถั่วเหลืองในประเทศไทยมีมานาน และมีการพัฒนาสายพันธุ์เพื่อการใช้งานที่หลากหลายกว่า บางสายพันธุ์อาจเน้นการเก็บเกี่ยวเมล็ดเพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เต้าหู้ นมถั่วเหลือง หรือน้ำมันถั่วเหลือง จึงอาจมีรสชาติที่ไม่หวานจัดเท่าถั่วแระญี่ปุ่น ขนาดฝักและเมล็ดก็อาจแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ และความกรอบอาจไม่เท่าถั่วแระญี่ปุ่น ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการเก็บเกี่ยวและวิธีการปลูก บางสายพันธุ์อาจมีเนื้อฝักเหนียวกว่า หรือมีรสชาติที่ออกไปทางมัน แทนที่จะเป็นรสชาติหวาน

สรุปได้ว่า ความแตกต่างระหว่างถั่วแระญี่ปุ่นกับถั่วแระไทย ไม่ได้อยู่ที่แค่ชื่อ แต่เป็นผลมาจากการคัดเลือกสายพันธุ์และวัตถุประสงค์ในการปลูก ถั่วแระญี่ปุ่นเน้นความหวาน กรอบ และเหมาะสำหรับรับประทานสด ส่วนถั่วแระไทยมีความหลากหลายของสายพันธุ์ และอาจมีการใช้งานที่หลากหลายกว่า จึงทำให้รสชาติ ขนาด และเนื้อสัมผัสมีความแตกต่างกันไป การเลือกซื้อจึงขึ้นอยู่กับความชอบและวัตถุประสงค์ในการนำไปประกอบอาหาร ลองเปรียบเทียบดูแล้วเลือกที่ถูกใจที่สุดกันนะคะ