ปลาทูมันกับปลาทูหอมต่างกันอย่างไร

2 การดู

ปลาทูมันและปลาทูหอมต่างกันที่กรรมวิธีการผลิต ปลาทูมันตากแดดเพียง 1-2 วัน ให้น้ำมันปลาซึมออกมา ทำให้รสชาติเค็มน้อย เนื้อนุ่ม ส่วนปลาทูหอมตากจนแห้งสนิท รสชาติเค็มจัด เนื้อหอมและมีขนาดใหญ่กว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบปลาเค็มที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปลาทูมันกับปลาทูหอม: ความแตกต่างที่มากกว่าแค่ชื่อ

ปลาทู อาหารทะเลราคาประหยัดที่หาซื้อง่ายและปรุงได้หลากหลายเมนู แต่ใครจะรู้ว่า แม้จะเป็นปลาชนิดเดียวกัน กลับมีการแปรรูปที่ให้ผลลัพธ์แตกต่างกันอย่างชัดเจน อย่างเช่น “ปลาทูมัน” และ “ปลาทูหอม” ที่แม้ชื่อจะคล้ายคลึงกัน แต่รสชาติและเนื้อสัมผัสกลับต่างกันราวฟ้ากับดิน

ความแตกต่างหลักของปลาทูมันและปลาทูหอม ไม่ได้อยู่ที่สายพันธุ์ปลา แต่มาจาก กระบวนการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระยะเวลาการตากแดด นี่เองที่เป็นตัวกำหนดคุณสมบัติเฉพาะของปลาทูทั้งสองชนิดนี้

ปลาทูมัน: เป็นปลาทูที่ผ่านการตากแดดเพียง 1-2 วัน เพียงพอให้เนื้อปลาเริ่มแห้ง และน้ำมันจากตัวปลาซึมออกมาเคลือบผิว จึงได้ชื่อว่า “ปลาทูมัน” เพราะเนื้อปลาจะยังคงความนุ่มชุ่มฉ่ำ รสชาติจะเค็มน้อยกว่า และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสเค็มจัด หรือต้องการรสชาติที่เบากว่า การนำไปประกอบอาหารก็ทำได้ง่าย อาจนำไปทอด ต้ม หรือยำ ก็ได้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อม

ปลาทูหอม: ต่างจากปลาทูมันอย่างสิ้นเชิง ปลาทูหอมจะถูกตากแดดจน แห้งสนิท ใช้เวลานานกว่า จนเนื้อปลาแข็งและแห้ง จึงมีรสชาติเค็มจัด และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่เข้มข้นกว่า ขนาดตัวของปลาทูหอมโดยทั่วไปจะใหญ่กว่าปลาทูมัน และเนื้อจะแน่นกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบปลาเค็มที่มีกลิ่นหอมแรง และรสชาติเข้มข้น นิยมนำไปประกอบอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน เช่น แกงส้ม หรือใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารอื่นๆ ที่ต้องการรสชาติเค็มและหอมเป็นพิเศษ

สรุปแล้ว การเลือกซื้อปลาทูมันหรือปลาทูหอม ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล หากต้องการรสชาติที่เบา เนื้อนุ่ม เลือกปลาทูมัน แต่หากต้องการรสชาติที่จัดจ้าน กลิ่นหอมแรง และเนื้อแน่น ปลาทูหอมคือคำตอบ ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยในการแปรรูป กลับสร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับปลาทูสองประเภทนี้ ทำให้เราสามารถเลือกสรรและนำไปประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย ตามความต้องการและรสนิยมของแต่ละคน